ก่อนหน้านี้เราได้ทำการแกะกล่อง และพรีวิว Nike Zoom Pegasus Turbo 2 สีเทา Thunder Grey กันไปแล้ว พอได้ลองใส่วิ่งมาสักพัก ก็ถึงแก่เวลาที่จะมารีวิวแล้ว สำหรับรุ่นนี้มีความรู้สึกที่แตกต่างจากรุ่นแรกไปพอสมควร จะเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามรีวิวกันครับ
ไม่อยากอ่าน เชิญชมวิดีโอรีวิวได้เลย
หน้าผ้าบางลง ภายในโปร่งสบายมากขึ้น
ด้วยการเปลี่ยนใช้ผ้า Mesh ชั้นเดียวและบางลง ทำให้ภายในนั้นรู้สึกถึงความโปร่งสบายมากขึ้นกว่ารุ่นแรก ส่วนตัวยังคิดว่าการระบายอากาศก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ดีกว่ารุ่นแรกพอสมควร เนื่องจากหน้าผ้าไม่ได้มีการเจาะรูระบายอากาศแบบรองเท้าวิ่งอื่นๆ เลยทำให้จุดนี้ยังไม่ค่อยโอเคเท่าไร
ช่วงของลิ้นรองเท้าที่บางและสั้นลง ไม่ทิ่มหน้าแข้งอีกแล้ว รอบๆ ข้อเท้าบางลง ส้นรองเท้าสั้นและบางลง ใส่แล้วสบายข้อเท้ามากขึ้น และด้วยทุกอย่างที่บางลงเลยทำให้รูปทรงของรองเท้านั้นดูเพรียวและปราดเปรียวมากกว่าเดิม เหมือนไปลดหุ่นมาเพื่อเน้นทำความเร็วมากขึ้น
ในรุ่นนี้ไม่มี Flywire สำหรับเพิ่มความกระชับกลางเท้า แต่มีการเพิ่มแถวของรูร้อยเชือกเพิ่มเข้ามาอีก 1 แถว ก็ช่วยทำให้มีความกระชับคล้ายๆ แบบเดิม อาจจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหลวมหรือไม่กระชับแต่อย่างใด
วิ่งเร็วก็ได้ วิ่งช้าก็ดี
ฟีลลิ่งของพื้นชั้นกลางยังคงให้ความรู้สึกแบบ Nike Zoom Pegasus 35 Turbo รุ่นแรกด้วยความที่พื้นชั้นกลางและพื้นชั้นนอกนั้นยกจากรุ่นเดิมมาเลย ได้ความยืดหยุ่น เด้ง และเบาที่สุดจากโฟม ZoomX และความนุ่ม เด้ง และทนทานจากโฟม React ทำให้เวลาวิ่งแล้วรู้สึกถึงความนุ่ม สบายเท้า และมีแรงส่งคืนกลับมาได้อย่างนุ่มนวล อีกทั้งตัวรองเท้ายังมีน้ำหนักเบา (เบากว่ารุ่นแรกประมาณ 2 กรัม) ทำให้การทำความเร็วก็ทำได้ วิ่งช้าแบบ Easy run ก็ดี ควบคุมรอบขาและรองเท้าได้ง่าย
และใครที่ชอบรองเท้าที่ใส่วิ่งแล้วมีความรู้สึกถึงพื้นที่สัมผัส รองเท้ารุ่นนี้ก็ถือว่าเหมาะเลย เพราะมีพื้นชั้นกลางที่ไม่ได้หนามาก ด้วยดรอป 10 มม. รองเท้าวิ่งส่วนใหญ่ก็มีดรอปเท่านี้ก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก แต่พื้นชั้นกลางไม่ได้เสริมขึ้นมาตรงอุ้งเท้า จึงไม่เหมาะกับคนที่มีรูปเท้าแบน
ส่วนการยึดเกาะ สำหรับรุ่นแรกถือว่าทำได้ดีมาก ในรุ่นนี้ก็ยกลายวัฟเฟิลแบบเดิมมา ตัวยางก็ค่อนข้างมีความทนทาน ตรงกลางเท้าก็เป็นโฟมโดยตรง ทำให้มีสัมผัสที่นุ่มนวลชวนฝันอยู่
ใครที่ใส่ Pegasus 35 Turbo รุ่นแรก สามารถใส่รุ่นนี้ตรงไซส์เดิมได้เลย แต่ถ้าใครที่มีหน้าเท้าค่อนข้างเรียว ก็สามารถลดครึ่งไซส์เพื่อความกระชับที่มากขึ้นได้
สรุป
ก็ยังเป็นรองเท้าวิ่งที่ค่อนข้างครบเครื่องตามแบบฉบับของรุ่นแรก ใส่วิ่งทำความเร็วก็ได้ ใส่วิ่งช้าก็ดี พื้นโฟม ZoomX และ React ทั้งสองชนิดก็มีความนุ่มสบาย การยึดเกาะดี มีความมั่นคง และมีน้ำหนักเบาพร้อมแรงส่งคืนที่ช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้นได้ ภายในเท้าโปร่งสบายขึ้นกว่ารุ่นแรก จะนำมาเป็นรองเท้าซ้อมหรือลงแข่งก็ถือว่าทำได้ดีเลย
ใช้ Turbo รุ่นแรกอยู่ ควรเปลี่ยนเป็น Turbo 2 หรือเปล่า?
หากใครที่ใช้งานรุ่นแรกอยู่ และตัวรองเท้ายังมีสภาพที่ดียังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ถ้าหากอยากได้ความโปร่งสบายภายในรองเท้า ความบางใส่สบาย ก็เปลี่ยนมาเป็นรุ่นที่ 2 ได้ ส่วนตัวคิดว่าประสิทธิภาพในการใส่วิ่งนั้นยังไม่แตกต่างกันมากจนเกินไป
พรีออเดอร์จากที่ไหน?
อีกหลายคำถามที่ถามกันเข้ามาว่า สั่งซื้อจากที่ไหน ขอตอบในนี้เลยนะครับ ว่าผมสั่งพรีออเดอร์มาจากเพจ Napatch Sneaker ใครที่สนใจก็ลองไปสอบถามกันดูได้ เพจนี้มีหลายรุ่น หลายสีให้เลือก แถมมีสีที่ไม่เข้าไทยด้วยนะ ร้านนี้แม่ค้าอัธยาศัยดี และขายแต่ของแท้เท่านั้น