Nike Zoom Pegasus Turbo “Mo” เป็นรองเท้าวิ่งที่ทางไนกี้ได้ทำออกมาให้กับ Sir Mo Farah นักวิ่งอีลิทชาวอังกฤษก่อนที่จะมีการแข่งขันระดับเมเจอร์อย่าง London Marathon 2019 ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ด้วยสีสันของ Turbo Mo ที่ไม่เหมือนสีของ Turbo ที่ผ่านมาและเป็นรุ่นพิเศษทำให้ถูกใจผมจึงต้องทำการจัดหามาเป็นเจ้าของเนื่องจากไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย และแล้วก็ได้มาในครอบครอง จึงได้ทำการแกะกล่องไปก่อนหน้านี้
และหลังจากที่ได้ไปลองใส่มาสักพัก จึงมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านไว้พิจารณาสำหรับรองเท้าวิ่ง Pegasus Turbo ครับ
ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปที่มาที่ไปของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้กันก่อน รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ได้นำโครงสร้างของ Nike Air Zoom Pegasus 35 มาใช้งาน โดยปรับเปลี่ยนหน้าผ้าและเทคโนโลยีไปหลายอย่าง ทำให้เกิดเป็นรองเท้าซ้อมที่สามารถทำความเร็วได้ดีสำหรับ Elid Kipchoge เกิดขึ้น
ส่องดีไซน์ Turbo Mo รองเท้าสำหรับเซอร์โม
ก่อนอื่นเรามาดูหน้าตาและดีไซน์ของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้กันก่อน ตัวรองเท้าจะมีสีหลักจะเป็นสีขาว ตัดด้วยแถบสีแดงตรงกลางเท้ายาวลงมา ซึ่งแถบตรงกลางนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งที่มีแถบกลางคาดตรงกลาง ก็จะหมายถึงความเร็วนั่นเอง
อัปเปอร์จะใช้ผ้า Fly mesh ที่เป็นผ้า 2 ชั้น น้ำหนักเบา ระบายอากาศ จะยืดหยุ่นได้ดี ด้านนอกเป็นโครงสร้างตาข่าย ด้านในเป็นผ้านุ่ม
ระบบเชือกได้ใช้ระบบ Flywire เข้ามาช่วยในการล็อคกระชับส่วนตรงกลางเท้า หากยิ่งดึงเชือกตึงเท่าไร เชือกของ Flywire ก็จะยิ่งโอบรัดกับเท้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งด้วยหน้าผ้าแบบนี้ทำให้เรามองเห็น Flywire ได้แบบชัดเจนมากๆ
มี MoBot ท่าประจำของเซอร์โมวางไว้ที่ลิ้นของรองเท้า ปลายเชือกรองเท้าเขียนคำว่า Mo และ Farah ไว้ข้างละคำ เมื่อนำมารวมกันก็จะได้ชื่อของเซอร์โมนั่นเอง
ด้านในแผ่นรองสีดำ และมีชื่อ Mo Farah และสนามสำคัญ ได้แก่ Daegu, London, Moscow และ Beijing โดยเป็นสนามที่ Sir Mo ได้อันดับ 1 โดยเป็นรายการ World Championships, Olympic Games (ระยะ 5,000m และ 10,000m) ก่อนที่จtอำลาลู่วิ่งมาลงแข่งขันงานวิ่งมาราธอน
ตรงส้นเท้ามีแผ่นแข็งดันทรงไว้ด้านในเพื่อการล็อคกระชับส้นเท้าและป้องกันไม่ให้เสียทรงด้วย และการสวมใส่ก็ไม่ได้ยากอะไรเพราะมีการออกแบบปลายส้นรองเท้าให้ยื่นออกไปด้านหลังนิดหน่อย รุ่นพิเศษนี้จะมีธง Union Jack สีทองประดับไว้อย่างสวยงามที่ด้านหลัง
มาถึงพื้นชั้นกลางของ Pegasus Turbo ที่มีโฟม 2 ชนิด ได้แก่ ZoomX โฟมชนิดเดียวกันยกับที่ใช้ใน Vaporfly 4% ที่มีความนุ่ม ยืดหยุ่น และน้ำหนัก อยู่ชั้นบน ประกบกับโฟม React ที่มีความนุ่ม เด้ง อยู่ชั้นล่าง มีดรอป 10มม. (หน้า 12มม. หลัง 22 มม.)
พื้นชั้นนอกก็เป็นลาย Waffle มีแผ่นยางเสริมความแข็งแรงตรงส่วนหน้าเท้าและส้นเท้า ตรงกลางเป็นโฟม React ปั๊มลายเฉยๆ เวลากดดูจะรู้สึกได้เลย
วิ่งเร็วก็ได้ วิ่งช้าก็ดี
ถ้าไม่อยากอ่านรีวิว ไปรับชมวิดีโอกันเลย
ในส่วนของความสบายและความกระชับก่อนเลย ถือว่าตัวรองเท้าทำมาได้ดีมาก เวลาสวมใส่รู้สึกถึงความกระชับเลย ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับผ้า Flymesh ด้านในเป็นผ้านุ่มๆ ใส่แล้วรู้สึกสบาย ด้านนอกเป็นผ้าตาข่ายที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับรองเท้า หน้าเท้าค่อนข้างกว้างกว่ารองเท้าไนกี้รุ่นอื่นๆ เล็กน้อย ทำให้คนหน้าเท้ากว้างก็ใส่ได้ ไม่บีบรัดมาก และมีระบบ Flywire ที่เรายิ่งดึงเชือกตึงมากเท่าไร ตรงกลางเท้าเราก็จะยิ่งกระชับมากขึ้นเท่านั้น
มาถึงฟีลลิ่งจากการใส่วิ่งกันบ้าง บอกได้เลยว่ารองเท้าวิ่งคู่นี้เป็นรองเท้าที่เน้นทำความเร็ว แต่จะนำมาใส่วิ่งช้าก็ทำได้ดี ด้วยโฟม 2 ชั้น 2 ชนิดที่รวมตัวกันได้อย่างลงตัว ได้ความยืดหยุ่น เด้ง และเบาที่สุดจากโฟม Zoom X และความนุ่ม เด้ง และทนทานจากโฟม React เวลาวิ่งจะรู้สึกการยุบตัวลงไปนิดนึงแล้วเด้งขึ้นมาอย่างนุ่มนวล ทำให้การก้าวเท้าได้อย่างไหลลื่น และสิ่งที่ชอบที่สุดก็คือน้ำหนักเบา ทำให้เราวิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแต่ใช้แรงเท่าเดิมเลย การวิ่งช้าก็ไม่เด้งจนทำให้เราควบคุมไม่ได้ แต่เวลาใส่เดินยังมีแรงส่งคืนกลับมาให้รู้สึกแกว่งๆ บ้างเล็กน้อย
นอกจากนี้ตัวพื้นชั้นกลางก็ไม่ได้สูงมาก ดังนั้นใครที่อยากได้รองเท้าวิ่งที่เป็นแบบแนวเรซซิ่งแต่ไม่ต้องความสูงจากพื้น Pegasus Turbo ก็จะให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย หากเป็นภาษาบาสเก็ตบอลก็จะเรียกว่า ฟีลลิ่งออนคอร์ท ที่เรารู้สึกและสัมผัสถึงพื้นได้ อีกทั้งตัวโฟม React ก็จะคอยช่วยให้ความมั่นคงจากโฟม ZoomX ที่จะคอยส่งแรงคืนอยู่ตลอดเวลา
การยึดเกาะ พื้นชั้นนอกที่เป็นลาย Waffle ต้องบอกว่ายึดเกาะได้ดีมาก และมีความทนทานอย่างมากอีกด้วย เพราะหลังจากที่วิ่งพื้นปูนในหมู่บ้านไปกว่า 40 กิโล แทบจะไม่มีความสึกหรอของพื้นเลย และตรงกลางเท้าที่เป็นโฟม React โดยตรงก็ให้สัมผัสที่นุ่มนวลมากหากเราลงกลางเท้าแบบเต็มๆ
สรุป Nike Zoom Pegasus Turbo เป็นรองเท้าวิ่งทำความเร็วได้อย่างครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใส่สบาย กระชับ การซัพพอร์ตจากโฟม 2 ชนิด การยึดเกาะที่ดี มีความมั่นคง และมีน้ำหนักเบาพร้อมแรงส่งคืนที่ช่วยให้เราวิ่งได้เร็วขึ้นได้ แถมนำมาใส่วิ่งช้าก็ทำได้ดีอีกด้วย คุ้มค่ามากๆ จะนำมาใส่ซ้อมหรือใส่แข่งก็ทำได้ดีเลย
สำหรับใครที่ไม่ต้องการลายพิเศษ ตอนนี้ทาง Nike.com ประเทศไทย ก็ได้ทำการลดราคาลงหลายสีทั้งของผู้หญิงและผู้ชายเพื่อต้อนรับการมาของรุ่นที่ 2
สามารถติดตามข่าวสารรองเท้าต่างๆ ได้ที่เฟซบุ๊ค SNKR TODAY อย่าลืมกดไลค์และติดดาวกันด้วยนะ จะได้ไม่พลาดข่าวสารต่างๆ