อาดิดาสได้ทำการเปิดตัวรองเท้าวิ่งตระกูล Ultraboost รุ่นใหม่ของปี 2024 เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มาด้วยกันถึงสองรุ่นได้แก่ adidas Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X และสำหรับรองเท้าวิ่งทั้งสองรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามรีวิวกันได้เลย
ทำความรู้จัก adidas Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X
สำหรับ Ultraboost รุ่นใหม่นี้ ได้มีการปรับปรุงจาก Ultraboost Light ในรุ่นที่แล้วแบบบใหม่หมด โดยยังคงใช้พื้นชั้นกลาง Light BOOST อยู่เช่นเคย พร้อมกับปรับรูปแบบของพื้นชั้นกลางใหม่และเพิ่มความหนา 9 มม. ในบริเวณส้นเท้าและปลายเท้า ทำให้เห็นว่าปลายเท้ามีความโค้งมาขึ้นแบบชัดเจน ทั้งนี้ได้นำระบบ Torsion System แบบใหม่ที่วางอยู่ใต้ฝ่าเท้าเป็นรูปตัว X เพื่อเสริมการซัพพอร์ตในจังหวะขยับต่างๆ ให้ดีขึ้น
พื้นชั้นนอกยังคงมีการใช้ยาง Continental ช่วงหน้าเท้าและส้นเท้า และใช้ยางกึ่งโปร่งแสงในส่วนที่เหลือ และมีการเจาะรูบางส่วนออกเพื่อลดน้ำหนักของตัวรองเท้าลง
อัปเปอร์ใช้ผ้าถัก Primeknit ที่แต่ละส่วนจะมีความความแข็งแรงและความยืดหยุ่นไม่เท่ากัน โดยรอบๆ Toe box จะมีความแข็งแรงมาก เนื่องจากจะต้องคอยล็อคเท้าให้กระชับ และเริ่มมีความยืดหยุ่นในบริเวณด้านบนจนไปถึงหลังเท้าที่ยืดหยุ่นมากที่สุดเืพ่อให้สวมใส่เข้ากับรูปเท้าได้ดี ส่วนส้นเท้าก็เป็นการบุผ้านุ่มและด้านนอกจะมี TPU Heel Cup สำหรับช่วยล็อคและประคองส้นเท้าให้อยู่กับที่
ความแตกต่างระหว่าง Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X
ปีนี้ได้เปิดตัวมาทั้งสองรุ่น โดย Ultraboost 5 จะมาพร้อมกับเคจตรงกลางเท้าตามแบบฉบับดั้งเดิมของ Ultraboost ส่วน Ultraboost 5X จะไม่มีเคจตรงกลางเท้าแต่จะมี 3 Stripes และแถบรูร้อยเชือกติดเข้ากับอัปเปอร์แทน ซึ่งการสวมใส่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน Ultraboost 5 จะรู้สึกกระชับช่วงกลางเท้า ส่วน Ultraboost 5X จะรู้สึกสบายและมีน้ำหนักน้อยกว่าเนื่องจากไม่มีเคจนั่นเอง
ทั้งคู่มาในดรอป 10 มม. ส้นเท้าสูง 39 มม. ปลายเท้า 29 มม. Ultraboost 5 มีน้ำหนัก 303 กรัม ส่วน Ultraboost 5X มีน้ำหนัก 288 กรัม ในไซซ์ 10US ผู้ชายทั้งคู่ ซึ่งโดยรวมก็มีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนหน้า และยังมีดีไซน์ที่ดูเพรียว ไม่ดูหนาก้นป่องเทอะทะแบบรุ่นที่แล้วแล้ว
ประสิทธิภาพและความรู้สึกในการสวมใส่ Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X
อัปเปอร์ผ้าถัก Primeknit ก็ยังคงโอบกระชับเท้าได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรัดแน่นจนไม่ไหว ช่วงหลังเท้าก็มีการถักทอให้มีความยืดหยุ่นมากเพื่อรองรับกับรูปเท้าที่หลากหลาย และรอบๆ เท้าก็มีการถักทอให้มีความแข็งแรงเพื่อช่วยล็อคเท้าเอาไว้ ตรงส้นเท้าก็มีการบุนุ่มและสูงขึ้นมาปิดเอ็นร้อยหวาย ใส่สบายไม่เสียดสี แต่จะรู้สึกหลวมๆ ที่ส้นเท้าด้านในเล็กน้อย เพราะไม่มี Heel Counter มาให้ แต่รองเท้าวิ่งคู่นี้มาในรูปแบบ Heel Cup แทน จึงยังคงทำให้รู้สึกส้นเท้าด้านในสุดไม่ค่อยกระชับเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ได้หลวมจนใส่ไม่ได้ เชื่อได้ว่าแต่ละคนก็จะรู้สึกแตกต่างกัน เพราะรูปเท้าไม่เหมือนกัน
ความแตกต่างของทั้งสองรุ่นก็คือช่วงตรงกลางเท้า สำหรับ Ultraboost 5 จะมีเคจเข้ามาช่วยล็อคกลางเท้า ให้ความรู้สึกถึงการมีเคจประกบเท้าชัดเจน หากใครที่ต้องการให้กระชับมากก็สามารถดึงเชือกให้แน่นขึ้นได้ ส่วน Ultraboost 5X จะให้ความสบายช่วงกลางเท้ามากกว่าแบบชัดเจน ใครที่มีเนื้ออุ้งเท้าเยอะ การที่ไม่มีเคจมาประกบกลางเท้าก็ทำให้ไม่รู้สึกปวดหรือโดนบีบได้ แต่ความกระชับในส่วนอื่นๆ เหมือนกันหมด
เมื่อออกวิ่ง ต้องบอกเลยว่าการปรับดีไซน์ของพื้นชั้นกลางใหม่ เหมือนทำให้รองเท้าวิ่งตระกูล Ultraboost ได้เกิดใหม่และเป็นรองเท้าวิ่งที่ควรจะเป็น ความรู้สึกกระด้างของ Light BOOST จาก Ultraboost Light หายไปแล้ว และด้วยการที่เพิ่มความหนาของพื้นชั้นกลางอีก 9 มม. ก็จะมอบความนุ่มสบายทั้งฝ่าเท้าเข้ามาแทนที่ และยังรองรับแรงกระแทกได้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้การออกแบบของรูปทรงพื้นชั้นกลางที่ปลายเท้ามีองศาโค้งชัดเจนก็ช่วยให้ความสมูทตอนวิ่งทำได้ดีขึ้น แต่ด้วยดีไซน์ช่วงอุ้งเท้ามีความเว้าเล็กน้อย ทำให้เวลาวิ่งมีอาการเท้าล้มเข้าในนิดๆ อยู่เหมือนกัน
ด้านการยึดเกาะ ก็ยึงถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานรองเท้าวิ่งทั่วไป ไม่มีลื่นไถลอะไร ส่วนเรื่องความทนทานก็ยังถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของยาง Continental แต่อาจจะไม่เหมาะกับพื้นปูนหยาบหรือวิ่งบนลู่ที่มีการเสียดสีเยอะๆ ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนวิ่งลากเท้าก็เลยไม่เจอปัญหาอะไร
สรุปความคิดเห็น adidas Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X
ถือเป็นการปรับปรุงมาให้ใช้งานวิ่งได้ดีขึ้น รวมถึงดีไซน์ที่น่าจะถูกใจกับแฟนๆ รองเท้าวิ่งตระกูล Ultraboost มากขึ้นด้วย กับรูปร่างหน้าตาที่ดูเพรียวขึ้นและดูส้นไม่บวม สวมใส่แล้วดูเท้าไม่ใหญ่ เท่เข้าเท้าได้ดี และการปรับพื้นชั้นกลางให้หนาขึ้นก็ทำให้ความรู้สึกนุ่มกลับมาและยังวิ่งได้แบบสมูทมากขึ้น อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบาสลงกว่ารุ่นก่อนๆ ไปพอสมควร รวมถึงการปล่อยออกมาด้วยกัน 2 รุ่น Ultraboost 5 แบบมีเคจ และ Ultraboost 5X แบบไม่มีเคจ ทำให้คนที่ไม่ชื่นชอบเคจมีทางเลือกมากขึ้น
รองเท้าวิ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ เหมาะกับคนที่ต้องการนำมาใส่วิ่งได้ในทุกๆ วัน โดยสามารถสวมใส่เดินและใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี ใครที่เป็นแฟน Ultraboost น่าจะถูกใจกับรุ่นนี้แน่นอน ส่วนคนที่อยากจะลอง Ultraboost ก็แนะนำมาที่ 2 รุ่นนี้ได้เลย
adidas Ultraboost 5 และ Ultraboost 5X ราคา 6,500 บาท มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านอาดิดาสและออนไลน์ https://omgrefer.com/82Nyg มีสีให้เลือกเยอะแยะเลย สีขาวล้วน, สีดำล้วน ก็มีให้เลือกนะ
ข้อมูลรองเท้า
- อัปเปอร์ผ้าถัก Primeknit สำหรับรุ่น Ultraboost 5 จะมาพร้อมเคจ TPU ตรงกลางเท้า
- พื้นชั้นกลาง Light BOOST
- พื้นชั้นนอกยาง Continental
- ดรอป 10 มม. ส้นเท้าสูง 39 มม. ปลายเท้า 29 มม.
- Ultraboost 5 มีน้ำหนัก 303 กรัม, Ultraboost 5X มีน้ำหนัก 288 กรัม ในไซซ์ 10US ผู้ชาย
ราคา 6,500 บาท