อาดิดาส ได้ทำการเปิดตัว adidas Ultraboost Light รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2023 เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้ถูกคาดการณ์กันว่าจะมาในชื่อ Ultraboost 23 ที่มาพร้อมกับพื้นใหม่ Light BOOST ที่จะมีน้ำหนักเบาขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่าง Ultraboost 22
adidas Ultraboost Light มีอะไรใหม่?
ถึงแม้หน้าตาภายนอกจะดูไม่ต่างจากเดิมเท่าไรนัก แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนพื้นชั้นกลางใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้พื้น Light BOOST ที่ทางอาดิดาสเคลมว่ามีน้ำหนักเบากว่า BOOST ถึง 30% ซึ่งถ้าเทียบน้ำหนักจากรุ่นก่อนหน้า Ultraboost Light ในไซซ์ 10US ผู้ชาย น้ำหนัก 321 กรัม ส่วน Ultraboost 22 ในไซซ์เดียวกัน มีน้ำหนัก 364 กรัม ถือว่าน้ำหนักโดยรวมเบาลงเยอะเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีน้ำหนักที่สูงกว่า 300 กรัมอยู่ ซึ่งก็ถือว่าไม่แปลกอะไรสำหรับรองเท้าวิ่งสายซัพพอร์ต
พื้น Light BOOST มีดีไซน์ใหม่ มีความเรียบเนียนมากกว่าเดิม แต่ก็ยังมองเห็นเป็นเม็ดบีดส์อยู่ และยังมาในรูปทรงคานโค้งที่มากกว่าเดิม โดยมีองศาในจังหวะเอนตัวไปข้างหน้าได้ง่ายมากขึ้น ตรงนี้จะช่วยให้การวิ่งทำได้อย่างลื่นไหลมากกว่าเดิม และที่ขาดไม่ได้ก็คือ adidas L.E.P (Linear Energy Push) ที่ปรับรูปแบบใหม่ จากเชือมกันที่ตรงกลางเท้ามาเป็นการเชื่อมกันตรงบริเวณหน้าเท้าแทนพร้อมกับยื่นออกไปตรงด้านข้างของบริเวณหน้าเท้า ซึ่งแกนนี้จะทำหน้าที่ช่วยให้พื้น Light BOOST คงรูป และยังช่วยเสริมแรงส่งคืนพร้อมทำหน้าที่ช่วยเป็นคานโค้งทำให้กลิ้งเท้าไปได้ง่ายนั่นเอง
พื้นชั้นนอกยางธรรมชาติ Continental ที่วางมาในบริเวณรอบๆ ฝ่าเท้า ซึ่งจะมีการเว้นตรงกลางไว้ และจะเห็นได้ว่าใต้ฝ่าเท้ามีการเว้าพื้น Light Boost เอาไว้เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกในจังหวะที่ลงเท้า และส้นเท้าก็ใช้ยางแบบทึบ และเสริมขึ้นมาถึงส้นเท้าด้านหลัง
อัปเปอร์ยังคงใช้ผ้าถัก Primeknit+ ที่มีความนุ่มและกระชับเท้า มาในรูปแบบ Sock-like เหมือนเดิม เวลาสวมใส่จะคล้ายกับการสวมถุงเท้า พร้อมปรับ Sockliner ใหม่ เสริมเนื้อผ้านีโอพรีนขึ้นมาตรงขอบมากขึ้น เพื่อลดการบาดและเสียดสีของเนื้อผ้าที่บริเวณข้อเท้า อีกทั้งยังมีการปรับปรุงเคจตรงกลางเท้าให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม และส้นเท้ายังคงมี Heel Cup ขนาดใหญ่เช่นเคย
ประสิทธิภาพและความรู้สึกในการสวมใส่
สำหรับการสวมใส่ต้องบอกเลยว่ารู้สึกสบายขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย โดยหน้าผ้าถัก Primeknit+ ที่มีการปรับปรุงใหม่ในรุ่นนี้ถือว่าปรับจูนมาได้ดี ใส่ได้สบายขึ้น ไม่บีบรัดเท้า น่าจะเป็นการยกความสูงของอัปเปอร์ขึ้นอีกเล็กน้อย จึงไม่ทำให้หน้าผ้าติดกับช่วงหลังเท้ามาก แต่ก็ยังให้ความกระชับที่ดี โดยเฉพาะบริเวณส้นเท้าที่รู้สึกล็อคแน่นมากขึ้น ไม่รู้สึกหลวมหลุดแบบรุ่นก่อนหน้าแล้ว
ในส่วนของเชือก ก็ยังคงมาในรูปแบบเชือก 4 แถวเหมือนเดิม โดยระบบเชือกจะสอดคล้องเข้ากับเคจตรงกลางเท้าที่จะโอบกระชับกลางเท้ามากขึ้นเมื่อดึงเชือกแน่นขึ้น ซึ่งความกระชับในตอนแรกนั้นจะมาจากผ้าถัก Primknit+ อยู่แล้ว และเมื่อมัดเชือกให้แน่นเพิ่มก็จะได้ความกระชับที่มากขึ้นอีก ส่วนถ้าใครเน้นใส่เดินก็แนะนำว่าให้คลายเชือกเพื่อให้ช่วงกลางเท้าสบายขึ้นจะดีกว่า
เมื่อสวมใส่ออกวิ่ง ความรู้สึกของพื้นชั้นกลาง Light Boost จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับ Boost รุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน โดยมอบความรู้สึกนุ่ม แต่ไม่ยวบเท้า มีความกระด้างเล็กน้อย ไม่ได้นุ่มนิ่มแบบแต่ก่อนแล้ว ซึ่งพอพื้นเฟิร์มขึ้นก็จะทำให้การเกร็งขาน้อยลง และพื้นโค้งได้องศามากขึ้น กลิ้งเท้าได้ดีขึ้น โฟมหนาขึ้นเล็กน้อยก็จะช่วยเรื่องซัพพอร์ตได้ดี ทำให้ลืมน้ำหนักของตัวรองเท้าไปได้เลย วิ่งไปได้แบบเรื่อยๆ
ส่วนตัววิ่งที่เพซ 7-8 หรือบางวันจะช้ากว่านั้น รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์สำหรับความเร็วประมาณนี้ มองว่า Light Boost นี่ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีกว่าเดิม เนื่องจากน้ำหนักรองเท้าที่เบาลงกว่าเดิมเยอะ ถึงแม้ว่าจะ 321 กรัมก็ตาม แต่ก็ไม่ถ่วงขาแบบแต่ก่อนแล้ว และยังต้องมอบความดีความชอบให้กับ adidas L.E.P แกนตรงใต้ฝ่าเท้าที่ช่วยคงรูปของพื้นชั้นกลางทำให้ไม่ต้องเปลืองแรงและปล่อยไหลไปตามทรงของรองเท้าได้เรื่อยๆ
ในด้านการยึดเกาะ ก็ต้องชมยาง Continental ที่ยังทำหน้าที่ได้ดี ส่วนใหญ่ใช้งานวิ่งบนพื้นถนนก็ให้การยึดเกาะที่ดีไม่ลื่นไถล และมีใช้งานพื้นหญ้าเทียมบ้าง ก็ถือว่าไม่แย่
สรุป adidas Ultraboost Light ดีไหม? เหมาะกับใคร?
สำหรับรองเท้าวิ่งคู่นี้ ส่วนตัวมองว่าเหมาะสำหรับการนำมาสวมใส่วิ่งในทุกๆ วัน โดยไม่เน้นความเร็ว วิ่งไปเรื่อยๆ และเหมาะกับผู้ที่ต้องการรองเท้าที่ซัพพอร์ตรองรับแรงกระแทกได้ดี ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใส่ฝึกซ้อมทำความเร็ว เนื่องจากตัวรองเท้ามีน้ำหนักที่เยอะ และการตอบสนองยังทำได้ไม่ดีมากพอ และถ้าใครที่หารองเท้าที่นำมาใส่เดินเยอะกว่า adidas Ultraboost Light คู่นี้ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เพราะพื้นที่ไม่นุ่มยวบ เวลาใส่เดินจะไม่ทำให้เราเกร็งขาและไม่เมื่อยขานั่นเอง
ใครที่สนใจตอนนี้ก็มีวางจำหน่ายแล้วที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส แอปพลิเคชัน, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ www.adidas.co.th, LINE Shopping: @adidasthailand และ อาริ รันนิ่ง, ซูเปอร์สปอร์ต, เจดี สปอร์ต และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ข้อมูลรองเท้า
- อัปเปอร์ผ้าถัก Primeknit+
- พื้นชั้นกลาง Light BOOST พร้อมเทคโนโลยี adidas L.E.P
- พื้นชั้นนอกยาง Continental
- น้ำหนัก 321 กรัม ไซซ์ 10US 9.5UK ผู้ชาย
- ราคา 7,000 บาท