หลังจากที่เปิดตัวในต่างประเทศไปเรียบร้อยแล้ว และก็ใกล้ที่จะเปิดตัวและวางจำน่ายในประเทศไทยเต็มทีกับ Saucony Endorphin 2021 Collection รองเท้าวิ่งซีรีส์เอ็นโดฟินรุ่นใหม่ สำหรับรุ่นใหม่นี้จะมีอะไรใหม่ มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง มาติดตามกัน
Saucony Endorphin Pro 2
มาเริ่มต้นกับที่รองเท้าวิ่งระดับท็อปที่เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับวันแข่งขัน (race day) โดยในรุ่นนี้ถือว่าเป็นการปรับเล็กๆ น้อยๆ จาก Endorphin Pro รุ่นแรก โดยยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN PB ที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบา เด้ง มีแรงส่งคืนที่ดี พร้อมกับเทคโนโลยี Speedroll พื้นโค้งช่วยให้เทไปข้างหน้าและเพิ่มความลื่นไหลได้อย่างเป็นธรรมชาติ และมีแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์แบบ S-curve ด้านในสำหรับเพิ่มการตอบสนองที่ดีมากขึ้น ช่วยคงรูปของพื้นชั้นกลาง เสริมให้เทคโนโลยี Speedroll ทำงานได้เต็มที่ และพื้นชั้นนอกยาง XT-900 ที่มาในรูปแบบเดิม มีความทนทาน ยึดเกาะได้ดี
สิ่งที่เปลี่ยนไปที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือระบบเชือก ที่เพิ่มสายคาดที่มาเป็นรูร้อยเชือกตรงกลางเท้า ตรงนี้ถ้าเราดึงเชือกแน่นขึ้น ก็จะเพิ่มความกระชับตรงกลางเท้าเช่นกัน พร้อมกับปรับความกระชับตรงส้นเท้าที่เป็นปัญหาของหลายๆ คนเวลาใส่เวอร์ชั่นแรก ก็ปรับให้ล็อคกระชับได้ดีขึ้น มีปรับดีไซน์ตรงลิ้นรองเท้าเล็กน้อย ส่วนหน้าผ้าก็ยังคงเป็น Engineered Mesh ชั้นเดียว ที่มีความโปร่ง ระบายอากาศได้ดี พร้อมกับเทคโลโนยี FORMFIT อยู่เช่นเคย และอัปเปอร์ยังผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิล เป็นหนทางนึงที่จะช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินท์จากการผลิต
ดรอป 8 มม. (35.5มม. /27.5มม. ) น้ำหนัก ผู้ชาย 9US 7.5 ออนซ์ (213 กรัม) ผู้หญิง 8US 6.3 ออนซ์ (179 กรัม) โดยยังเท่ากับรุ่นแรก สำหรับรุ่นนี้วางจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว ราคา $200 USD
Saucony Endorphin Speed 2
รองเท้าวิ่งสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็วที่ยังคงใช้ระบบเดิมเหมือนกับ Endorphin Speed รุ่นแรก ไม่ว่าจะเป็นพื้นชั้นกลาง PWRRUN PB ที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบา เด้ง มีแรงส่งคืนที่ดี พร้อมกับเทคโนโลยี Speedroll พื้นโค้งช่วยให้เทไปข้างหน้าและเพิ่มความลื่นไหลได้อย่างเป็นธรรมชาติ และมีแผ่น Responsive Nylon Plate แบบ S-Shaped อยู่ด้านในเช่นเคย ไม่แข็งเท่ากับคาร์บอน แต่ก็ช่วยคงรูปพื้นชั้นกลางสำหรับพื้นโค้งและเสริมแรงส่งคืนได้ดี และต้องใช้แรงตัวเองมากขึ้น เพื่อฝึกฝนกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้นสำหรับความพร้อมในวันแข่งขันนั่นเอง
สำหรับอัปเปอร์ก็ยังคงเป็น Engineered Mesh เหมือนเดิม แต่ปรับในเรื่องการระบายอากาศได้ดีขึ้น จะเห็นได้ว่าเราสามารถมองเห็นรูระบายอากาศบนอัปเปอร์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และมีการปรับเรื่องการล็อคกระชับตรงส้นเท้าให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งในรุ่นแรก นักวิ่งหลายๆ คนก็เจอปัญหาเรื่องการล็อคส้นเท้าได้ไม่ดีเท่าไรนัก น่าสนใจว่าในรุ่นนี้อาการนี้จะหายไปหรือไม่
พื้นชั้นนอกยังเป็นรูปแบบเดิม มาพร้อมดรอป 8 มม. (35.5มม. /27.5มม. ) เท่ากันกับ Endorphin Pro เพื่อให้ใส่ซ้อมในระบบ ส่วนสูงของพื้นที่เท่ากัน ในวันแข่งขันเมื่อสวม Endorphin Pro 2 จะได้ไม่ต้องปรับตัวมาก ในส่วนของน้ำหนักยังไม่มีการเปิดเผย เพราะรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ยังไม่มีการวางจำหน่าย
Saucony Endorphin Shift 2
เป็นอีกรุ่นที่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากมายนักสำหรับรองเท้าวิ่ง Daily Trainer สายหนานุ่มรุ่นใหม่คู่นี้ สิ่งที่เห็นต่างไปจาก Endorphin Shift รุ่นแรกก็คือ TPU Heel Counter ที่เปลี่ยนไป โปร่งแสงมากขึ้นและดูยาวเข้ามาจนเกือบถึงตรงกลางเท้าเลย ของเดิมจะเป็นถ้วยคว่ำ แต่ของรุ่นใหม่จะเป็นเหมือนแกนยาวเข้าไปเลย น่าจะเพื่อการซัพพอร์ตล็อคกระชับส้นเท้าที่ดีขึ้น ซึ่งรุ่นแรกส่วนตัวก็ว่าล็อคกระชับดีอยู่แล้วนะ หน้าผ้า Engineered mesh พร้อมกับปรับเรื่องการระบายอากาศให้ดีขึ้น ปรับตำแหน่งรูร้อยเชือกใหม่ รวมๆ แล้วหน้าตาของรุ่นใหม่นี้ดูเท่กว่ารุ่นที่แล้วเยอะเลย
ในส่วนของระบบยังคงเป็นเหมือนเดิม พื้นชั้นกลาง PWRRUN ที่มีความนุ่ม แน่น ตอบสนองได้ดี มาในรูปแบบพื้นหนา และเทคโนโลยี Speedroll ช่วยให้ไหลไปข้างหน้าได้มากขึ้น ดรอป 4 มม. คาดว่าความสูงของพื้นน่าจะยังเท่าเดิมที่ 38 มม. / 34 มม. ในส่วนของน้ำหนักยังไม่มีการเปิดเผย เพราะรุ่นนี้ยังไม่มีการวางจำหน่าย
Saucony Endorphin Trail
นอกจากจะมีรุ่นต่อยอดทั้งหมดแล้ว ยังมีการเปิดสายรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับตระกูล Endorphin ด้วย ซึ่งมีการใช้ซุปเปอร์โฟมอย่าง PWRRUN PB โฟมตัวท็อปเข้ามาใช้งานในรูปแบบพื้นหนามากๆ พร้อมกับมีการใช้ผ้าตาข่ายมาครอบตัวโฟมอีกที ที่เรามองเห็นเป็นลายๆ บนพื้นชั้นกลางนั่นล่ะ ตรงนี้เหมือนจะเป็นการช่วยโอบรัดตัวโฟมให้คงรูปและช่วยปกป้องตัวโฟมและยังคงเทคโนโลยี Speedroll พื้นทรงโค้งเข้ามาใช้งานด้วย พร้อมกับพื้นชั้นนอก PWRTRAC สำหรับการยึดเกาะในการวิ่งเทรล มาพร้อมดรอป 4 มม. น้ำหนัก 295 กรัมสำหรับผู้ชาย และ 255 กรัม สำหรับผู้หญิง
อัปเปอร์ผ้าตาข่ายที่มาในแบบ sock-like แบบสวมเข้าไป ลิ้นรองเท้าสูงช่วยปกป้องขา และมีเทคโนโลยี FORMFIT เสริมโครงสร้าง 3D Printed ด้านนอก ช่วยโอบกระชับรอบเท้า และปลายเท้าเพิ่มความแข็งแรงตามสไตล์รองเท้าเทรลมาให้ น่าสนใจว่า Endorphin Trail คู่นี้จะเป็นอย่างไร กับรองเท้าวิ่งเทรลรุ่นแรกที่มีการนำซุปเปอร์โฟมมาใช้งาน
*หมายเหตุ หากมีการวางจำหน่าย หรือมีข้อมูลเพิ่มเติม จะมีการอัปเดตข้อมูลอีกครั้ง