หลังจากที่เปิดตัว Nike Zoom Fly 3 ออกมาในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2019 ก็หายไปเลยสำหรับรองเท้าวิ่งตระกูล Zoom Fly ซึ่งเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ไนกี้ ได้เปิดตัว Nike Air Zoom Alphafly NEXT% รองเท้าวิ่งระดับท็อปรุ่นใหม่ พร้อมกับรองเท้าวิ่งใส่ซ้อมคู่กันอย่าง Nike Air Zoom Tempo NEXT% ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ Zoom Fly ถูกเว้นช่วงไปถึง 1 ปี และมาในปี 2021 ทาง ไนกี้ ก็ได้ส่ง Nike ZoomX Vaporfly NEXT% 2 ที่นำผ้าตาข่าย Engineered Mesh มาใช้งาน แน่นอนว่ารองเท้าวิ่งที่เอาไว้ใส่ซ้อมคู่กันก็ต้องมาด้วย ซึ่งตอนนี้ Nike Zoom Fly 4 ก็ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว สำหรับบทความนี้ เราจะพาทุกท่านมาชมและทำความรู้จักเพิ่มเติมกับรองเท้าวิ่งตระกูล Zoom Fly ที่ห่างหายไปนานถึง 2 ปี คู่นี้กันครับ
Nike Zoom Fly 4 มีอะไรใหม่?
สำหรับ Zoom Fly 4 นี้ได้มีการปรับปรุงเพื่อให้คล้ายกับ Vaporfly NEXT% 2 มากที่สุด เพื่อทำการใส่ซ้อมให้คุ้นชิน และในวันแข่งขันก็หยิบ Vaporfly NEXT% 2 ไปใส่แข่งขัน รุ่นนี้จึงมีการเปลี่ยนอัปเปอร์ใหม่จากหน้าผ้า VaporWeave มาเป็น Engineered Mesh ที่มาในรูปแบบ Sock-like สวมเท้าเข้าไปเหมือนถุงเท้า โดยมีการใช้ผ้าถัก Flyknit เข้ามาผสมผสานเพื่อความกระชับบริเวณหลังเท้า (ใช้แทนลิ้นรองเท้า) และรอบๆ ข้อเท้า เพื่อให้มีการยืดหยุ่นเวลาสวมเท้าเข้าไปและกระชับข้อเท้าในขณะใส่วิ่ง
ช่วงกล่งเท้าจะมีเส้นโครสร้างที่วางเชื่อมกับระบบเชือกอยู่ด้านใน สำหรับเพิ่มความกระชับตรงกลางเท้า เมื่อมีการดึงเชือกให้แน่นขึ้น แถบโครงสร้างนี้ก็จะโอบกระชับช่วงกลางเท้ามากขึ้นนั่นเอง ทำงานในลักษณะเดียวกับ FlyWire
ในรุ่นนี้ได้ใส่ Pull tab มาให้ที่ลิ้นรองเท้าและส้นเท้าสำหรับช่วยดึงเวลาสวมใส่เท้า ทำให้ใส่ได้ง่ายขึ้น และ Pull Tab ที่ส้นก็ไม่สูง ไม่มาเสียดเสียดสีเอ็นร้อยหวายแน่นอน ด้านในก็ถูกบุด้วยฟองน้ำขนาดใหญ่โอบรอบส้นส้นเท้ายาวไปถึงบริเวณใต้ข้อเท้าช่วยล็อคกระชับส้นเท้าให้มั่นคง
ระบบพื้นเหมือนเดิม
พื้นชั้นกลางใช้โฟม React ที่มีความนุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดี และมีความทนทานเพื่อสำหรับการใส่ซ้อมในทุกๆ วัน และมาพร้อมกับแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ด้านในเืพ่อเสริมแรงส่งสำหรับการทำความเร็วจึงสามารถนำไปใส่แข่งขันได้ด้วย ทำให้รองเท้า Zoom Fly 4 คู่นี้เป็นรองเท้าไฮบริดระหว่างแบบเทรนนิ่งและวิ่งแข่ง
โดยยังคงดรอป 8 มม. เท่าเดิม เพราะด้วยความที่ถูกออกแบบมาเป็นรองเท้าวิ่งใส่ซ้อมที่คู่กับ Nike ZoomX Vaporfly NEXT% 2 จึงจะต้องมีดรอปและความสูงของพื้นที่เท่ากัน แต่ด้วยความที่รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ใช้พื้นชั้นกลาง React จึงจะมีน้ำหนักที่มากมากกว่า โดยคู่นี้มีน้ำหนัก 288 กรัม ในไซซ์ 10US ผู้ชาย ซึ่งจะหนักกว่า Nike Zoom Fly 3 ที่มีน้ำหนัก 280 กรัมในไซซ์เดียวกันอีกเล็กน้อย
พื้นชั้นนอกก็ยังคงในรูปแบบเดิม โดยมีการใช้งานยางพื้นชั้นนอกบริวเณหน้าเท้าที่มีการแบ่งออกเป็นเส้นๆ เพื่อการยึดเกาะและรีดน้ำได้ดีกว่าเดิม และใช้บริเวณส้นเท้าอีก 2 ชิ้น
สำหรับการใช้งานจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวต้องลองไปสวมใส่กันสักพักก่อนนะ แล้วเราจะกลับมาพบกันใน Review Performance สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้กัน
สำหรับใครที่อยากลองหรือสนใจ ตอนนี้ก็มีวางจำหน่ายแล้วที่ Iam247 ราคา 5,800 บาท โดยสามารถไปลองสัมผัสกันได้ที่ Nike Siamcenter, Nike Central World, Nike Iconsiam, Nike Central Plaza Ladprao หรือ Line Official Account: @iam247official https://lin.ee/9emVcww
ข้อมูลรองเท้า Nike Zoom Fly 4
- อัปเปอร์ Engineered Mesh + Flyknit
- พื้นชั้นกลาง React, แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์แบบเต็มความยาวเท้าด้านใน
- พื้นยางชั้นนอก มีการเจาะร่องตามยาว ช่วยในการยึดเกาะบนพื้นผิวที่แตกต่างกัน และในสภาพการแข่งขันที่แตกต่างกัน
- ดรอป 8 มม.
- น้ำหนัก 288 กรัม 10US 28CM ผู้ชาย