Nike React Infinity Run รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่ดีไซน์มาเพื่อลดอาการบาดเจ็บ วางจำหน่ายในประเทศไทยสำหรับสมาชิก NikePlus กันไปแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา จากตอนแรกกะจะสั่งออนไลน์จากทางหน้าเว็บ nike.com แต่ทางหน้าร้าน Nike Siam Square 1 ก็มีการวางจำหน่ายสำหรับสมาชิกก่อน ก็เลยได้จัดหามาไว้ทำรีวิวให้กับเพื่อนๆ ได้ติดตามกัน
คลิปวิดีโอแกะกล่อง พรีวิว รองเท้าวิ่ง
สำหรับรองเท้ารุ่นนี้จะเป็นรองเท้าที่ออกมาต่อจาก Nike Epic React Flyknit และทำการเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อป้องกันการสับสน ดังนั้น Nike Epic React Flyknit 3 จะไม่มีแล้ว ซึ่งจะเป็นรุ่นนี้แทน
อัปเปอร์ เปลี่ยนมาใช้ Flyknit Loft ผ้าถัก 3 ชั้น ช่วงหน้าเท้าโปร่ง ระบบายอากาศได้ดีและแห้งเร็ว แต่ไม่กระชับเท่าเดิม ซึ่งผ้าถักแบบรุ่นก่อนที่จะดึงยืดได้จะอยู่บริเวณหลังเท้าและลิ้นรองเท้าแทน ตรงนี้จะเป็นการเพิ่มความกระชับช่วงหลังเท้าและยังเป็นทรง Bootie เหมือนการสวมถุงเท้าเหมือนทั้ง 2 รุ่นที่ผ่านมา
ระบบเชือกยังคงใช้แบบ 4 แถว แถวละ 2 รูเหมือนเดิม แต่จะแยกรูร้อยเชือกออกจากกันอย่างชัดเจน และมีเขียนคำว่า Flyknit แปะไว้ที่รูสุดท้าย น่าสนใจว่าการแยกแนวเชือกออกจากกันทั้ง 4 แถวนี้จะช่วยในด้านไหนบ้าง
ตรงส้นเท้า Heel counter ไม่ได้มีความแข็งแรงมากนัก มีการเสริมผ้าด้านในเผื่อให้เป็นทรงขึ้นมา และมีการเสริม Heel clip รอบๆ ส้นเท้ายาวไปจนถึงช่วงกลางเท้าทั้งด้านในและด้านนอกเลย
ส่วนที่ดึงส้น Heel pull tab มีเขียนคำว่า infinity run ทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับแถบการไล่เฉดสีสันสวยงามพร้อมกับ Swoosh ที่มาแบบไม่เต็ม Swoosh
มาถึงพื้นชั้นกลางโฟม React ที่มีการเพิ่มปริมาณมากขึ้นจากรุ่นก่อนและมีการนำโครงสร้างมาจาก Vaporfly 4% รูปทรงโค้ง rocker-geometry มาใช้งาน โดยรูปทรงโค้งนี้จะมาช่วยในการวิ่งได้อย่างลื่นไหลและช่วยลดแรงกระแทกในขณะวิ่ง ตั้งแต่การก้าวเท้าไปจนถึงตอนลงเท้า แน่นอนว่ายังคงมีการเว้าลวดลายโฟมที่เป็นเอกลักษณ์ของ React แต่ขนาดของการเว้าโฟมนี้จะแตกต่างกัน เพื่อการรองรับแรงกระแทกที่แตกต่างกัน
และแผ่นรอง insole ค่อนข้างบาง โดยทางไนกี้ต้องการให้เท้าแนบชิดกับโฟมมากขึ้น เพื่อการสัมผัสถึงความนุ่มของโฟม React นั่นเอง รองเท้าคู่นี้มีดรอป 9 มม. (ปลายเท้า 21.5 มม., ส้น 30.5 มม.) ส่วนรุ่นก่อนหน้ามีดรอป 9 มม. เช่นกัน แต่พื้นบางกว่า (ปลายเท้า 17 มม., ส้น 26 มม)
มาถึงพื้นชั้นนอกที่เพิ่มมามากขึ้นเป็นเต็มทั้งรองเท้าแล้ว โดยทางไนกี้บอกว่าจะเป็นการช่วยในเรื่องของการยึดเกาะและเพิ่มความทนทานมากขึ้น อีกทั้งยังดูมีความเป็นแฟชันเหมือนกับ Nike React Element 55 อีกด้วย ซึ่งจะทนทานมากขึ้นหรือไม่นั้น เดี๋ยวต้องไปลองกันอีกที
ในเรื่องของน้ำหนัก รองเท้าผู้ชายไซส์ 10 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 10.27 ออนซ์ หรือประมาณ 292 กรัม ถือเป็นน้ำหนักปกติของรองเท้าสายซัพพอร์ต มีดรอป 9 มม. (ปลายเท้า 21.5 มม., ส้น 30.5 มม.)
เท่าที่ได้ลองสวมใส่ช่วงหน้าเท้าค่อนข้างสบายแต่ช่วงกลางเท้าค่อนข้างเรียว และเหมือนจะมีอะไรหนุนข้างในเท้า ตอนลองสวมไม่ได้ใส่ถุงเท้า รู้สึกว่ารอบๆ ข้อเท้าค่อนข้างคมพอสมควรเลย คิดว่าตอนใส่วิ่งอาจจะต้องใส่ถุงเท้าที่มีข้อสูงหน่อย ส่วนความรู้สึกการวิ่งจะเป็นอย่างไร ต้องขอไปลองใส่วิ่งสักพักนึงก่อน แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง
Nike React Infinity Run ราคา 5,800 บาท วางจำหน่ายสำหรับสมาชิก NikePlus วันที่ 23 มกราคม และสำหรับบุคคลทั่วไปวันที่ 30 มกราคม 2563 นี้
อย่าลืมกดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด See First ติดดาวไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟
ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday