หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่อง พาชม พรีวิว HOKA Mach X 2 กันไปแล้ว และก็ได้ทดสอบมาสักพัก วันนี้ก็เลยจะมารีวิวเล่าความรู้สึกในการสวมใส่ให้ทุกคนได้ติดตามกัน
Mach X 2 นับว่าเป็นการปรับปรุงแบบเมเจอร์เชนจ์จากรุ่นก่อนหน้า โดยออกแบบจากรูปทรงของรองเท้าวิ่งสายแข่งขันระดับท็อปอย่าง Cielo X1 เพื่อสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็วและการวิ่งระยะไกล พื้นชั้นกลางยังคงเป็นรูปแบบ 2 เลเยอร์แบบ Mach X รุ่นแรก โดยยังคงใช้โฟม PEBA ที่มีความนุ่ม ยืดหยุ่น คืนตัวไว วางไว้ชั้นบน และใช้งาน EVA วางไว้ชั้นล่าง ซึ่งช่วงส้นเท้ายังคงเป็นกรอบล้อมเข้ากับโฟมชั้นบนอยู่ และโฟมทั้ง 2 ชนิดนี้จะประกบเข้ากับแผ่น Pebax มาเป็นแบบเต็มความยาวเท้า และเพิ่มความกว้างเป็นปีกออกด้านข้างตรงหน้าเท้าเพื่อสำหรับการรองรับและเสริมแรงส่งคืนมากขึ้น แน่นอนว่ายังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยี Early stage MetaRocker ปลายเท้าโค้งเพื่อการวิ่งสมูทลื่นไหล
สำหรับรุ่นนี้จะมี ดรอป 5 มม. ผู้หญิง 42มม. / 37มม., ผู้ชาย 44มม. / 39มม. เมื่อเทียบกับ Cielo X1 ที่มีพื้นสูง 39 มม./ 32 มม. ทำให้ Mach X 2 มีพื้นรองเท้าที่สูงกว่า น่าสนใจว่าจะให้ความรู้สึกและฟีลในการสวมใส่เป็นแบบไหน น้ำหนัก 265 กรัม ในไซซ์ 10.5US ผู้ชาย เบากว่า Cielo X1 (272 กรัม) ในไซซ์ที่เท่ากัน
นุ่มนวล เป็นมิตร ไม่เร่ง
ความรู้สึกเมื่อสวมใส่ พบว่าพื้นชั้นกลางโฟมทั้ง 2 ชนิด มีความนุ่มมาก ในช่วงแรกโฟม EVA ยังรู้สึกถึงความแข็ง ส่วน PEBA ชั้นบนนั้นนุ่มมาตั้งแต่แรก แต่พอได้วิ่งไปสักระยะ โฟม EVA ชั้นล่างจะรู้สึกนุ่มขึ้น ทำให้เวลาวิ่งพบกับความนุ่มสบายเท้า และแผ่น Pebax ที่ให้มานั้นก็ทำหน้าที่ได้ดี ช่วยเพิ่มความมั่นคงและเสริมแรงส่งคืนกลับมา ถึงแม้จะได้มีแรงส่งคืนมากเท่ากับแผ่นคาร์บอน แต่ก็พอให้รู้สึกบ้างในรองเท้าวิ่งรุ่นนี้
โฟมทั้งสองเลเยอร์มีความหนา 44 มม. / 39 มม. ใส่แล้วรู้สึกสูงจากพื้นมาก ช่วงส้นเท้า EVA จะมีความหนามากกว่าหน้าเท้า เลยทำให้คนที่วิ่งลงส้นเท้าจะรู้สึกไม่ค่อยเด้งเท่าไรนัก แต่ถ้าลงกลางเท้าหรือหน้าเท้าจะรู้สึกถึงความนุ่มเด้งของ PEBA ที่ชัดเจนกว่า อีกทั้งพื้นชั้นกลางยังมีเทคโนโลยี Early stage MetaRocker ที่ช่วยให้ไปข้างหน้าได้อย่างไหลลื่น ซึ่งรองเท้าวิ่งคู่นี้ก็ให้อารมณ์ไหลๆ อยู่เหมือนกัน
รูปทรงเรียวยาว รุ่น Wide คือตอบโจทย์สำหรับคนหน้าเท้ากว้าง
Mach X 2 มาพร้อมกับอัปเปอร์หน้าผ้าตาข่าย Woven ที่มีการทักทอและโปร่งมากกว่าเดิม การระบายอากาศทำได้ดี หน้าผ้ามีความแข็งแรง โอบกระชับเท้า แต่รูปทรงของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้มีความเรียวยาว ทำให้การเพิ่มไซซ์เป็นสิ่งที่ผิด ถึงแม้ด้านข้างจะพอดี แต่ปลายเท้าเหลือเยอะเกินไป อีกทั้งยังทำให้รู้สึกปลายเท้าโล่งๆ อีกด้วย นอกจากนี้การที่รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ไม่มี Heel Counter เป็นดีไซน์รองเท้าวิ่งแข่งแบบ Rocket X 2 ทำให้ส้นเท้าไม่ค่อยกระชับ และรู้สึกหลวม มีการขยับทุกครั้งที่มีการยกเท้า แต่การร้อยเชือกที่ Runner’s loop รูสุดท้ายก็ช่วยล็อคข้อเท้าได้ดี แก้ปัญหาส้นหลุดได้บ้าง แต่ด้วยไซซ์ที่เราเผื่อมา 0.5 ก็ยังมีอาการอยู่ ดังนั้นทางเลือกที่ถูกต้องก็คือ ตรงไซซ์ แต่เป็นรุ่น Wide หรือ 2E นั่นเอง
ด้านการยึดเกาะก็ทำได้ในระดับที่ดี พื้นยางที่ให้มาก็มีความหนาทนทาน เหมาะสำหรับการเป็นรองเท้าวิ่งฝึกซ้อม ที่ต้องมีการหยิบมาใช้งานบ่อยๆ ความทนทานก็เป็นอีกสิ่งที่ควรมี
สรุปความคิดเห็น HOKA Mach X 2 ดีไหม? เหมาะกับใคร?
โดยรวมถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนดีไซน์ที่ดูซิ่งขึ้น หลายๆ คนถึงกับเรียกว่า Baby Cielo X1 เพราะนำดีไซน์มาด้วยนั่นเอง และด้วยการปรับหน้าผ้าใหม่เลยทำให้การระบายอากาศดีขึ้น เรื่องอาการส้นขยับยังมีบ้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับรูปเท้าของแต่ละคนด้วย พื้นชั้นกลางให้ความนุ่ม มีความเด้งที่กำลังพอดี ไม่มากเกินไป และมีการรองรับแรงกระแทกได้ดี วิ่งจบไม่มีสะท้าน อีกทั้งยังมีความไหล วิ่งแล้วรอบขาสมูธ เหมาะกับเป็นรองเท้าซ้อม วิ่งระยะไกล ใส่ซ้อมทำความเร็ว แต่ไม่เหมาะกับวันชิลๆ เท่าไรนัก ด้วยพื้นชั้นกลางที่หนาและนุ่ม ถ้าวิ่งช้าจะต้องเกร็งขามากกว่า
HOKA Mach X 2 จะมีราคา 7,490 บาท วางจำหน่ายที่ร้าน HOKA EXPERIENCE STORE สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เมกาบางนา, เอ็มโพเรียม, ร้าน REV RUNNR และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ https://hoka.rev.co.th/
—-
และสำหรับใครที่มีบัตร KTC Rev สามารถเลือกใช้ส่วนลด 25% ได้ที่หน้าร้าน REV RUNNR ได้
ถ้าใครยังไม่มีบัตร สมัครได้ที่นี่ https://invol.co/clj31mv
—-
ข้อมูลรองเท้า Mach X 2
- อัปเปอร์ผ้าตาข่าย Woven
- พื้นชั้นกลางโฟม PEBA และ EVA พร้อมแผ่น Pebax แบบเต็มความยาวเท้า
- พื้นชั้นนอกยาง
- ดรอป 5 มม. Stack height ผู้หญิง 42มม. / 37มม., ผู้ชาย 44มม. / 39มม.
- น้ำหนัก 265 กรัม ในไซซ์ 10.5US ผู้ชาย
- ราคา 7,490 บาท
The Review
HOKA Mach X 2
โดยรวมถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนดีไซน์ที่ดูซิ่งขึ้น หลายๆ คนถึงกับเรียกว่า Baby Cielo X1 เพราะนำดีไซน์มาด้วยนั่นเอง และด้วยการปรับหน้าผ้าใหม่เลยทำให้การระบายอากาศดีขึ้น เรื่องอาการส้นขยับยังมีบ้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับรูปเท้าของแต่ละคนด้วย พื้นชั้นกลางให้ความนุ่ม มีความเด้งที่กำลังพอดี ไม่มากเกินไป และมีการรองรับแรงกระแทกได้ดี วิ่งจบไม่มีสะท้าน อีกทั้งยังมีความไหล วิ่งแล้วรอบขาสมูธ เหมาะกับเป็นรองเท้าซ้อม วิ่งระยะไกล ใส่ซ้อมทำความเร็ว แต่ไม่เหมาะกับวันชิลๆ เท่าไรนัก ด้วยพื้นชั้นกลางที่หนาและนุ่ม ถ้าวิ่งช้าจะต้องเกร็งขามากกว่า
PROS
- พื้นชั้นกลาง PEBA + EVA และแผ่น Pebax นุ่มนวล ไม่เร่งคนใส่เกินไป
- พื้นหนา รองรับแรงกระแทกได้ดี
- เหมาะสำหรับวิ่งระยะไกล ใส่ซ้อมทำความเร็ว
CONS
- รูปทรงเรียวยาว ต้องระวังเรื่องไซซ์ให้ดี
- ไม่มี Heel Counter เมื่อไซซ์ไม่พอดีจะทำให้รู้ส้นหลวม
Review Breakdown
-
ดีไซน์
-
ประสิทธิภาพ
-
ความคุ้มค่ากับราคา