หลังจากที่แกะกล่อง พรีวิว รองเท้าวิ่ง ASICS GEL-NIMBUS 22 ไปก่อนหน้านี้ และตอนนี้ได้ลองใส่มาสักพักแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะมารีวิวเล่าสู่กันฟังว่ารองเท้าวิ่งคู่นี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลยครับ
หน้าผ้า Monofilament นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี
สำหรับอัปเปอร์ที่เปลี่ยนมาใช้หน้าผ้าใหม่ Monofilament ที่มีความนุ่ม และสบายเท้าจากผ้า 2 ชั้นด้านใน ส่วนการระบายอากาศนั้นก็ทำได้ดี ลิ้นรองเท้าหนานุ่มไม่มีแรงกดทับจากเชือก ส่วนเชือกก็ถือว่าดีมากๆ มัดทบเดียวก็เอาอยู่
สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นหน้าเท้ากว้าง 2E ซึ่งใครที่เท้ากว้างก็หมดปัญหาแน่นอน ส่วนเท้าปกติถ้ามาใส่ก็อาจจะรู้สึกหลวมๆ ไม่กระชับนิดหน่อย ในส่วนตรงส้นเท้าก็ล็อคได้กระชับดี ฟองน้ำรอบๆ ข้อเท้านอกจากะมีลวดลายที่สวยงามแล้วยังกระชับเข้ากับเท้าดีมาก และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ถ้าใครที่ใส่รุ่น 2E แล้วรู้สึกหลวมก็ให้ร้อยเชือกตรง Runner’s loop รูสุดท้ายเพื่อเพิ่มความกระชับ
แต่รูปทรงดีไซน์ของรองเท้าเมื่อใส่เข้ากับเท้าแล้วจะไม่ได้ดูเพรียวมากนัก ดูบวมๆ นิดหน่อย แต่จะมีข้อดีคือทำให้เรารู้สึกว่าขาเรียวขึ้นอีกนิด 😀 การที่ดีไซน์ดูเทอะทะแบบนี้ก็ถือว่าไม่แปลกเท่าไรสำหรับรองเท้าสายซัพพอร์ตของทาง ASICS ซึ่งก็มีสไตล์นี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่ถือว่ารุ่นนี้มีดีไซน์หน้าตาที่ทันสมัยขึ้น ทั้งลวดลายหน้าผ้าและคู่สีที่นำมาใช้ เรียกได้ว่าสวยงามเลยทีเดียว
นุ่มสบายเท้า ยึดเกาะได้ดี
พื้นชั้นกลางของรุ่นนี้จะมีโฟม 2 ชนิด ได้แก่โฟม FlyteFoam Propel โฟมใหม่ของทาง ASICS ที่มีน้ำหนักเบาและมีความนุ่มเด้งมาใช้งานตรงส่วนชั้นบนตั้งแต่กลางเท้าไปจนถึงส้นเท้า และชั้นล่างยังใช้โฟม FlyteFoam ที่มีความนุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดีมาคอยช่วยซัพพอร์ต
ซึ่งใส่วิ่งครั้งแรกก็รับรู้ได้ถึงความนุ่มสบายเท้าเลย แต่ก็ไม่ได้เฟิร์มเหมือนกับ ASICS GEL-KAYANO 26 ใครที่ใส่ Kayano มาก่อน อาจจะรู้สึกได้ว่ารุ่นนี้นุ่มกว่า และยวบนิดนึงในจังหวะที่ลงเท้า นั่นหมายความว่าจะเร่งความเร็วได้ยากเพราะพื้นชั้นกลางมีความนุ่ม แต่ถ้าเอาไว้วิ่งเรื่อยๆ ก็เหมาะมากๆ เลย ซึ่งตัวรองเท้าก็ออกแบบมาเพื่อการนี้อยู่แล้วด้วย
และยังมีการเสริม GEL เทคโนโลยีหลักไว้ที่ส้นเท้าและบริเวณหน้าเท้าไว้สำหรับช่วยรองรับแรงกระแทก ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้เป็นจุดที่ต้องการรองรับแรงกระแทกมากที่สุดด้วย ซึ่งเวลาวิ่งก็ไม่ได้รู้สึกถึงความสะเทือนเท่าไร ถือว่ารองรับแรงกระแทกได้ดีเลย
รองเท้าวิ่งรุ่นนี้มีดรอป 10 มม. ส้นสูง 25 มม. และปลายเท้าสูง 15 มม. สูงขึ้นกว่า GEL-NIMBUS 21 เล็กน้อย มีน้ำหนัก 309 กรัม แทบจะไม่ต่างสำหรับรุ่นก่อนหน้า เป็นน้ำหนักปปกติของสายซัพพอร์ตอยู่แล้ว ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่ถ้าวิ่งไกลๆ จะรู้สึกถึงน้ำหนักของรองเท้าได้พอสมควรเลย
พื้นชั้นนอกฟองน้ำยาง AHAR และ Super AHAR ตรงส้นเท้ามีความทนทานและยึดเกาะได้ดี ช่วงหน้าค่อนข้างกว้างมอบความมั่นคงในการลงเท้าได้ดี ช่วงกลางเท้าจะมีการใช้ GUIDANCE TRUSSTIC ที่เป็นแผ่นเทอร์โมพลาสติกสำหรับค่อยซัพพอร์ตอุ้งเท้าเว้นเว้าไว้ ตอนแรกก็กังวลว่าอาจจะทำให้ข้อเท้าพลิกเข้าด้านในง่าย แต่พอออกวิ่งก็ปกติดี ไม่พลิกง่ายแต่อย่างใด และพื้นชั้นนอกลวดลายที่ออกแบบมาก็มีการยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี วิ่งแล้วค่อนข้างไหลลื่นเลย
สรุป ASICS GEL-NIMBUS 22
โดยรวมเป็นรองเท้าวิ่ง Daily training ที่ดีเลย อัปเปอร์ซัพพอร์ตดี ล็อคกระชับ แต่ช่วงหน้าเท้าโปร่งสบาย พื้นชั้นกลางมอบความนุ่มสบายเท้าตลอดการวิ่ง การออกแบบโครงสร้างตามระบบ IMPACT GUIDANCE ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย เพราะการลงเท้าและยกเท้าขึ้นได้ใช้งานเทคโนโลยีทุกภาคส่วนของ ASICS ได้หมดเลย ใครที่กำลังมองหารองเท้าใส่ซ้อมวิ่งเรื่อยๆ สบายๆ รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ได้เลย
ใครที่สนใจตอนนี้ก็วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ ASICS ICONSIAM, ASICS Store, Supersport และDiana รวมถึงทางออนไลน์ที่ www.asics.com/th ในราคา 6,500 บาท
ขอบคุณ ASICS Thailand ที่ส่งรองเท้าคู่นี้มาให้ลองกันด้วยนะครับ
อย่าลืมกดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด See First ติดดาวไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟
ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday