หลังจากที่ได้เผยโฉมในงาน The Running Event 2019 ที่ ออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ล่าสุด ASICS EVORIDE รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดจากรองเท้าตระกูล Energy Saving ก็ได้เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว
สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่เป็นรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากรองเท้าตระกูล Energy Saving หลังจากการเปิดตัวของ METARIDE และ GLIDERIDE ที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในปีที่ผ่านมา ในรุ่นนี้ได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นกลางใหม่ ใช้เทคโนโลยี FLYTEFOAM Propel ที่มีน้ำหนักเบา รองรับแรงกระแทกได้ดีมาใช้งาน โดยยังคงใช้โครงสร้างเทคโนโลยี GUIDESOLE ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสูญเสียพลังงานและช่วยให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย
ด้วยรูปทรงโค้งมนที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ จะช่วยจำกัดการเคลื่อนไหวบริเวณข้อต่อข้อเท้า ซึ่งเป็นบริเวณที่นักวิ่งใช้พลังงานมากที่สุด ทำให้ช่วยในการลดการสูญเสียพลังงานในขณะวิ่งไปได้
ส่วนบนใช้ผ้าตาข่าย Engineered Mesh ที่ระบายกาศได้ดี โดยมีโลโก้ ASICS แบบใสคาดอยู่ตรงกลางเท้า รูปทรงของพื้นชั้นกลางก็ไม่แตกต่างจาก METARIDE และ GLIDERIDE มากนัก พื้นชั้นนอก Grip Sole และเสริมด้วย AHAR ที่มีความทนทานสูงตรงบริเวณส้น รองเท้ารุ่นนี้มีดรอป 5 mm (Heel 28 mm, Forefoot23 mm) น้ำหนัก 9.1 ออนซ์ หรือประมาณ 257 กรัม (size 9 US)
คุณเคนิชิ ฮาราโน เจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการทั่วไปอาวุโสแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬา ASICS กล่าวว่า “หลังจากความสำเร็จของการเปิดตัว METARIDE™ และ GLIDERIDE™ เราต้องการนำการผสมผสานของประสิทธิภาพในการเป็นรองเท้า Energy Saving การรองรับแรงกระแทก และความทนทาน ที่จะมอบให้แก่นักวิ่งมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า EVORIDE™ เป็นหนึ่งในรองเท้า Energy Saving ที่มีราคาจับต้องได้ และน้ำหนักเบาที่สุดในซีรี่ส์ รองเท้าคู่นี้เหมาะกับการวิ่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งการทำความเร็ว การวิ่งที่ความเร็วต่อเนื่อง (tempo run) และการวิ่งระยะไกล ที่ช่วยให้นักวิ่งก้าวผ่านขีดจำกัดของความเร็วและความอดทนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ราคาและวันวางจำหน่าย ASICS EVORIDE
จะวางจำหน่ายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ ที่ ASICS stores, Supersports, B and B Outdoor sports, General Sport, และ Infinite Sport รวมถึงทางออนไลน์ที่ www.asics.com/th ในราคา 4,500 บาท
เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ของรองเท้า
- TECHNOLOGY: โครงสร้าง midsole แบบโค้งช่วยลดการเคลื่อนไหวในบริเวณที่พลังงานส่วนใหญ่ถูกใช้ไป ในส่วนข้อต่อข้อเท้าและช่วยให้นักวิ่งก้าวต่อไปได้ง่ายขึ้นและวิ่งได้นานขึ้น
- FLYTEFOAM™ PROPEL TECHNOLOGY: ด้วยวัสดุพื้น midsole ที่นุ่ม และน้ำหนักเบา ช่วยรองรับการตอบสนอง ทำให้สามารถรองรับแรงกระแทกบริเวณเท้าได้มากขึ้น
- ENGINEERED MESH UPPER: ส่วนด้านบนของรองเท้าเป็นผ้าตาข่ายที่สามารถยืดได้หลายทิศทาง และปรับให้เข้ากับรูปร่างของเท้าของผู้สวมใส่ได้อย่างดี
- ROLLING MOTION LAST: ช่วยส่งแรงในการออกแรงในการเคลื่อนไหว จากบริเวณเท้าสู่บริเวณนิ้วเท้า
- FULL GROUND CONTACT: พื้นรองเท้าที่ช่วยส่งมอบความลื่นไหลในการส่งผ่านแรงจากบริเวณส้นเท้าสู่ปลายเท้า
- LIGHT AHAR™ SPONGE RUBBER: พื้นยางด้านนอกที่ช่วยลดการสึกหรอและรองรับแรงกระแทกได้มากยิ่งขึ้น
- SUPER AHAR™ HEEL-PLUG: พื้นยางพิเศษจาก ASICS ที่ช่วยยืดอายุให้กับบริเวณรองเท้าที่ใช้งานหนัก