หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องและพรีวิวตัวรองเท้ากันไปแล้ว วันนี้ก็ถึงแก่เวลาที่จะมารีวิว adidas Ultraboost 20 รองเท้าวิ่งตระกูล Ultraboost รุ่นใหม่ประจำปี ค.ศ. 2020 ซึ่งรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร และมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
ก่อนอื่นขอย้อนความพูดถึงตัวรองเท้าสักเล็กน้อย สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ได้ต่อยอดจาก adidas Ultraboost 19 ที่มีการปรับโครงสร้างใหม่จาก 17 ชิ้นส่วนของ adidas Ultraboost 4.0 มาเหลือเพียง 4 ชิ้นส่วนหลักๆ พร้อมกับมีการปรับพื้นชั้นกลางที่ใช้เทคโนโลยี Boost ใหม่ เรียกว่า Optimized Boost มีปริมาณมากว่าเดิม 20% หนากว่าเดิม แต่น้ำหนักเท่าเดิม ทำให้การรองรับแรงกระแทกทำได้ดีขึ้น นุ่มสบายขึ้น และมีแรงส่งคืนกลับมามากขึ้นด้วย และในรุ่นใหม่อย่าง Ultraboost 20 ก็ได้มีการปรับปรุงจากสิ่งที่นักวิ่งหลายๆ ท่านพบปัญหาในรุ่นก่อนหน้ามาด้วย อีกทั้งยังมีหน้าตาออกแนวสปอร์ตมากขึ้นด้วย
ไม่อยากอ่าน ไปชมคลิปวิดีโอรีวิวกันเลย
อัปเปอร์ใหม่ ใส่สบายขึ้น
ในรุ่น Ultraboost 20 นี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนอัปเปอร์ใหม่ จากเดิมที่ใช้ Primeknit 360 ก็เปลี่ยนมาเป็น Primeknit+ แบบใหม่ที่มีการใช้เทคโนโลยี Tailored Fiber Placement (TFP) มาช่วยในการเย็บ ซึ่งจะทำให้การตัดเย็บและการจัดวางโครงสร้างของเส้นใยมีความถูกต้องและแม่นยำในระดับมิลลิเมตร จะเห็นได้ว่าการเย็บเสริมความแข็งแรงในจุดเล็กๆ ตามรอบๆ Toe Box นั้นทำได้เนียนและเรียบร้อยดี โดยการเย็บแบบนี้เราจะเห็นมาตั้งแต่รุ่น adidas Solarboost 19 แต่ในรุ่นนี้จะเป็นแบบ 2 ชั้น และถ้าถอดแผ่นรองออกเราก็จะเห็นพื้น Boost ทันที ต่างจาก Ultraboost 19 ที่จะเห็นผ้าถัก Primeknit 360 แต่เราไม่แนะนำให้ดึงแผ่นรองออกนะ เพราะตัวแผ่นรองจะมีการแปะกาวเล็กๆ เพื่อให้แผ่นรองไม่เคลื่อนอยู่
อัปเปอร์ไม่ได้มีการใช้ผ้าถัก Primeknit+ ทั้งหมด ตรงส้นเท้านั้นได้เปลี่ยนใช้วัสดุอื่นเป็นผ้านุ่มลื่นเหมือน Neoprene มาไว้ที่ส้นเท้า ทำให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้น ด้านนอกจะคอยซัพพอร์ตด้วย 3D Heel Frame ที่ดูแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม
สำหรับใครที่รู้สึกถึงการบีบรัดหลังเท้าในรุ่นก่อน รุ่นนี้บอกได้เลยว่าใส่สบายขึ้น ไม่รัดหลังเท้าอีกต่อไปแล้ว และเคจเกราะ Elastane ตรงกลางเท้าที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ เฉียงหลบช่วงงอเท้านั้นก็ไม่โดนการเสียดสีของตะเข็บแล้ว และมีการเย็บด้ายเสริมความแข็งแรงของตัวเกราะมากขึ้นด้วย แต่ช่วงส้นเท้าที่มีการเปลี่ยนวัสดุที่นิ่มขึ้นทำให้รู้สึกว่าไม่กระชับเท่าที่ควร ไม่มีเสริมแถบฟองน้ำด้านในนูนออกมาเพื่อเสริมความกระชับแบบรุ่นก่อน ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับรูปเท้าของแต่ละคนด้วย บางคนก็ใส่กระชับเลย สำหรับบางคนก็อาจจะต้องปรับเชือกรัดมากขึ้น
พื้นชั้นกลางและพื้นชั้นนอกยังคงเดิม
พื้นชั้นกลางยังคงเป็น Optimized Boost แบบเดิมที่มีการเพิ่มปริมาณจากรุ่น Ultraboost 4.0 มาถึง 20% แน่นอนว่ายังคงมีความนุ่มสบายเท้า ไม่ยวบ และมีแรงส่งคืนกลับมาในขณะวิ่ง อีกทั้งยังมีการเคลือบช่วยป้องกันพวกฝุ่นเข้าไปอยู่ตามซอกของ Boost ด้วยนะ เวลาวิ่งเสร็จก็เช็ดทำความสะอาดออกได้ง่าย ไม่มีคราบฝัง
พื้นชั้นนอกยังคงเป็นยาง Continental ลวดลายของดอกยางเป็น Stretchweb เหมือนรุ่นที่แล้วเลย ซึ่งก็จะเป็นลายดอกยางแบบแบบแปดเหลี่ยมเหมือนกับ Ultraboost All Terrain แต่ไม่หนาเท่า ซึ่งก็ทำหน้าที่ยึดเกาะได้ดี พร้อมกับ Torsion Spring แกนโครงสร้างน้ำหนักเบาที่ช่วยยึดโฟมให้คงรูปไม่บิดเบี้ยว และช่วยซัพพอร์ตในจังหวะลงเท้าและช่วยดีดส่งในจังหวะก้าวเท้าขึ้นมา แกนนี้เปรียบดังกระดูกสันหลังของรองเท้าเลยก็ว่าได้
ความแตกต่างระหว่าง Ultraboost 19 และ Ultraboost 20
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าใน Ultraboost 20 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดก็คือส่วนของอัปเปอร์ที่เปลี่ยนมาใช้ Primeknit+ แทน Primeknit 360 ซึ่งรูปแบบการถักก็จะมีการกระชับเฉพาะจุดมากขึ้น และมีการดีไซน์เกราะตรงกลางเท้าใหม่ เฉียงหลบตรงช่วงที่มีการงอเท้าออกไป ที่สำคัญ ใครที่เคยใส่ Ultraboost 19 แล้วรู้สึกว่ารัดหลังเท้า จะไม่พบเจออาการนี้ใน Ultraboost 20 ว่าแล้วก็ไปดูรูปภาพเปรียบเทียบรองเท้าวิ่งทั้ง 2 รุ่นกันเลย
Boost in Space ป้ายนี้มีที่มา
สำหรับรองเท้ารุ่นนี้จะมีบางส่วนที่ติดป้าย International Space Station U.S. National Lab ที่ลิ้นรองเท้า พร้อมเขียนคำว่า CRS (Commercial Resupply Services) และ Boost in space ไว้ ซึ่งหมายถึงภารกิจในปี 2020 ที่ทางอาดิดาสจะทำการขนส่ง Boost ขึ้นสู่อวกาศไปพร้อมกับยาน SpaceX เพื่อทำการทดสอบ Boost ในสภาวะไร้น้ำหนัก และถ้าค้นพบอะไรดีๆ ก็จะนำกลับมาพัฒนารองเท้าวิ่งต่อไป ไม่ได้หมายถึงว่ารุ่นนี้จะใช้ Boost ที่มาจากอวกาศแต่อย่างใด
ราคาถูกลง
ใน Ultraboost 20 รุ่นใหม่นี้ได้มีการปรับราคาลงมาที่ 6,500 บาท จาก 7,300 บาท ซึ่งถือเป็นข้อดีของผู้บริโภคที่จะได้รองเท้าวิ่งในราคาที่ถูกลง สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์
ประสิทธิภาพ adidas Ultraboost 20
เมื่อได้ใส่ออกวิ่ง ความรู้สึกโดดเด่นของรองเท้าวิ่งตระกูล Ultraboost จากค่าย 3 ขีดนี้ก็คือ ความนุ่มสบายเท้า และไม่ยวบ พร้อมมีแรงส่งคืนกลับมาแบบรู้สึกได้ ตัว Boost เองก็ยังคอยซัพพอร์ตรองรับแรงกระแทกในขณะที่ลงเท้าอีกด้วย ยิ่งลงกลางเท้าหรือเต็มเท้าก็ยิ่งสัมผัสถึงความนุ่มสบายของ Boost ได้อย่างเต็มที่ และภายในยังมีการเสริมดันอุ้งเท้าขึ้นมาอีกเล็กน้อย คิดว่าคนที่มีลักษณะเท้าแบนไม่มากก็สามารถใส่ได้ แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบก็จะรู้สึกรำคาญนิดๆ
อัปเปอร์ส่วนบนที่มีการปรับปรุงใหม่ก็ใส่ได้สบายขึ้น การปรับเปลี่ยนทิศทางตัวหน้าผ้าก็ทำหน้าที่ล็อคกระชับได้ดี ยิ่งผูกเชือกแน่นขึ้น เกราะตรงกลางเท้าก็ช่วยเพิ่มความกระชับขึ้นไปอีก ตัวลิ้นรองเท้าก็มีความนุ่ม ไม่บาดหน้าขา
ตัวรองเท้าเป็นสายซัพพอร์ต เลยทำให้มีน้ำหนักมากกว่า 300 กรัม ซึ่งถือว่าไม่แปลกสำหรับรองเท้าวิ่งสายนี้ แต่ก็แลกมากับความนุ่มสบายของเท้า อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ใส่เดินเที่ยวสบายเพราะ Boost ไม่ยวบ ถือเป็นรองเท้าที่ครบครันรุ่นนึงเลยก็ว่าได้ และอย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้มีดีไซน์ออกมาสำหรับ International Space Station U.S. National Lab ด้วย ทำให้มีสีสันแนวอวกาศค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่ Boost เป็นสี Iridescent ออกแนวอวกาศ หรือจะเป็นสี Iridescent บนตัวรองเท้าแทนก็มีให้เลือกหลายสี ดีไซน์นี้มีจำนวนจำกัดด้วยนะ แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบก็มีดีไซน์แบบธรรมดาวางจำหน่ายเช่นกัน
adidas Ultraboost 20 ราคา 6,500 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์, อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ สยามพารากอน, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ