adidas SPZL ตำนานที่ยาวนานกว่าหนึ่งทศวรรษ เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ล่าสุดสำหรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 นำเสนอโดย แกรี่ แอส์ปเดน (Gary Aspden) นักออกแบบ ผ่านภาพยนต์ที่เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ของอาดิดาสตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อถ่ายทอดไปสู่อนาคต
คอลเลกชันนี้ นำเสนอสนีกเกอร์สไตล์คลาสสิกผสมผสานกลิ่นอายยุคใหม่ทั้งหมด 6 แบบ เริ่มต้นด้วย TRX Mesh SPZL ที่นำ TRX ปรับโฉมอัปเปอร์ใหม่ แต่ยังคงโทนสีน้ำเงิน และเหลืองแบบคลาสสิกไว้เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างลงตัว ต่อมากับ Handball Cup SPZLผสมผสานสไตล์แฮนด์บอลอันเป็นเอกลักษณ์จากยุคกลาง 80 เข้ากับดีไซน์หนังโค้งบริเวณพื้นรองเท้าตามแบบฉบับ Handball Top รวมเข้ากับเฉดสีน้ำเงิน/ขาวในตำนาน จาก Handball Spezial ในปี 1983 ตัดด้วยสีแดงสด พร้อมลิ้นรองเท้าสีขาว อัปเปอร์ที่ทำมาจากหนังกลับแบบนุ่ม และพื้นยางสีเหลืองอมน้ำตาล
ในขณะที่ Failsworth SPZL ดึงเอาภาพลักษณ์ของอาดิดาสรุ่น Barbados มาสานต่อจิตวิญญาณของสไตล์ Low-Profile ด้วยหนังกลับดีไซน์ T-Toe มาในพาเลตสีที่เรียบง่าย เสริมด้วยโลโก้สีน้ำตาลบนลิ้นรองเท้า ที่ได้แรงบันดาลใจจากความวินเทจของอาดิดาสรุ่น Universal SL นอกจากนี้ The Roelee SPZL รุ่นที่สืบทอดมาจากรุ่น Whalley SPZL โดยผสมผสานสไตล์ทันสมัยเข้ากับดีเทล foxing จาก Gazelle SPZL และ T-Toe ที่ลากยาวไปจนถึงส้นรองเท้าในรุ่น Whalley SPZL
ถัดไปกับรุ่น Pampanga SPZL ผลงานที่ได้ที่รับอิทธิพลการออกแบบพื้นรองเท้าวินเทจจาก adidas Squire แรร์ไอเทมที่ผลิตในเมืองหนึ่งของประเทศฟิลิปปินส์ และปรับโฉมลวดลายส่วนบนใหม่ รวมถึงการปรับปลายเท้าให้กระชับมากขึ้น
และด้วยแรงบันดาลใจจากรุ่น Las Palmas รองเท้าเทนนิสในตำนานของอาดิดาส ในซีซั่นนี้ได้นำความคลาสสิกมาปรับความหมายใหม่จึงทำให้เกิด A Aspden SPZL โดยทีม SPZLตั้งใจเพิ่มลายเซ็นให้รองเท้าลูกผสมคู่นี้เข้ากับยุคมากยิ่งขึ้น แต่การเลือกลายเซ็นนั้นนับเป็นความท้าทาย เนื่องจากรองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่รองเท้าลายเซ็นของกีฬา สุดท้ายทีมออกแบบได้เลือกใช้เอกลักษณ์ลายเซ็นคุณพ่อที่ล่วงลับไปแล้วของ Gary Aspdeซึ่งเป็นช่างไม้แกะสลัก ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความอาลัย แต่ยังสะท้อนยุคสมัยที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบ
คอลเลกชัน adidas SPZL ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 เป็นการต่อยอดดีไซน์จากรองเท้ามาสู่เครื่องแต่งกาย เชื่อมโยงสไตล์ของสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน ในสไตล์ของ SPZL ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ไฮไลต์ของคอลเลกชันนี้ คือ Halewood SPZL Parka ตัดเย็บจากผ้าไนลอนน้ำหนักเบาปักโลโก้ขนาดใหญ่ด้านหลัง มาในสองสีใหม่ ได้แก่ สีเขียวเข้ม และสีดำ ตามมาด้วย เสื้อฮู้ด Billinge SPZL เสื้อ Brockhall SPZL และ เสื้อ Mod SPZL ที่ล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงหัวใจการออกแบบของแบรนด์เป็นหลัก ขณะเดียวกันผ้าริปสตอปถูกนำมาตัดเย็บเป็นแจ็คเก็ต Hudswell SPZL และกางเกงขาสั้นสไตล์สปอร์ต กางเกงทรงเข้ารูปทรวมใส่สบายอย่างกางเกงขายาว Salesbury SPZL ที่มาพร้อมกระเป๋าซิป และเติมเต็มฤดูใบไม้ผลิให้สมบูรณ์แบบด้วยอิทธิพลจากเสื้อแจ็คเก็ต Wardour จึงทำให้เกิดเป็นเสื้อกั๊ก Wardour SPZL มาในดีไซน์แบบไม่มีแขน พิมพ์ Mod Trefoil ขนาดใหญ่ด้านหลังในโทนสีเดียวกัน
แอคเซสเซอรี่ในคอลเลกชันนี้ได้แก่ ST10 SPZL Bag ที่มาพร้อมกับกระเป๋าคาดเอว ST10 SPZL และหมวกแก๊ปสีขาว Mod Trefoil SPZL
คอลเลกชันนี้นำเสนอสไตล์ที่โดดเด่น พร้อมดึงมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของอาดิดาสมาใช้วางแผนแคมเปญในครั้งนี้ โดยมีนักแสดงชาวอังกฤษ และผู้สนับสนุน adidas SPZL มานานอย่าง เจมส์ เนลสัน-จอยซ์ (James Nelson-Joyce) เป็นนักแสดงนำ กำกับภาพยนต์โดยนิค กริฟฟิธส์ (Nick Griffiths) ผลิตโดย &SON และถ่ายภาพโดยช่างภาพดนตรีชื่อดัง เควิน คัมมินส์ (Kevin Cummins)
พบกับคอลเลกชัน SS25 SPZL Mainline ในวันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 ในราคา 4,300 – 4,500 บาทสำหรับรองเท้า ราคา 2,300 – 8,300 บาทสำหรับเครื่องแต่งกาย ราคา700 – 4,500 บาทสำหรับแอคเซสเซอรี่ ที่ร้านอาดิดาส แบรนด์เซ็นเตอร์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาสยามพารากอน ร้านคาร์นิวาล รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ www.adidas.co.th, แอปพลิเคชัน adidas และ Line @adidasThailand
