รีวิว Under Armour HOVR Infinite 2 รองเท้าวิ่งฝังชิป นุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดี

หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องพร้อมกับพรีวิวตัวรองเท้า และได้นำไปใส่วิ่งกันมาสักพัก วันนี้เราจะมารีวิว Under Armour HOVR Infinite 2 รองเท้าวิ่งฝังชิปรุ่นใหม่จาก อันเดอร์ อาร์เมอร์ รุ่นนี้กันครับ

ไม่อยากอ่าน เชิญรับชมคลิปวิดีโอรีวิวกันได้

ดีไซน์คล้ายเดิม อัปเปอร์หนานุ่ม กระชับเท้าพอควร

ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่ 2 แต่ก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรมากนักในรุ่นนี้ ยังคงมาในดีไซน์ที่ดูทรงหนาๆ ดูแล้วรู้ทันที่ว่าเป็นรองเท้าสาย Cushioning อย่างแน่นอน สำหรับรุ่นนี้อัปเปอร์ได้ใช้งานผ้าตาข่าย Engineered mesh มีการปรับเปลี่ยนลวดลายใหม่ จากเดิมที่เป็นวงๆ แนวเดียวกับลายของโฟม HOVR ซึ่งการระบายอากาศก็ถือว่าทำได้ในระดับที่โอเค ไม่ได้รู้สึกถึงความอับหรือร้อนเท้าแต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความโปร่ง เป็นเพราะว่าลิ้นรองเท้านั้นเป็นฟองน้ำค่อนข้างหนา และรอบๆ ข้อเท้าก็มีการบุโฟมหนาเหมือนกัน แต่ก็จะได้ความนุ่มเข้ามาแทนที่

และด้วยความหนานุ่มแบบนี้ทำให้เพิ่มความกระชับให้กับเท้าเหมือนกัน ยิ่งร้อยเชือกเข้า Runner’s loop ก็จะทำให้ช่วงลิ้นรองเท้ากระชับขึ้นมากกว่าเดิม (สำหรับใครที่รู้ว่าร้อยเชือกแบบธรรมดาแล้วหลวมไปนิด) แต่ทว่าเชือกที่ให้มาค่อนข้างสั้นทำให้การร้อยเชือกเพิ่มอีกรูแล้วทำให้มัดเชือกยากเหมือนกัน ส่วนเชือกรองเท้าของรุ่นนี้ก็ทำได้ดี มัดทบเดียวก็เอาอยู่

เมื่อใส่ออกวิ่ง ตัวอัปเปอร์ก็มีความนุ่ม ไม่มีส่วนไหนที่เสียดสีหรือกดทับ การล็อคกระชับก็ทำได้ดี ส้นไม่หลุดง่าย อาจจะเป็นเพราะช่วงรอบๆ ข้อเท้ามีการบุฟองน้ำหนา รวมไปถึงลิ้นรองเท้าที่หนาก็ทำให้ภายในเท้าค่อนข้างแน่น แต่ช่วงบริเวณนิ้วเท้าค่อนข้างสบาย

พื้นชั้นกลาง HOVR นุ่มสบายเท้า

สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ได้มีการใช้โฟม HOVR เต็มความยาวเท้า ซึ่งโฟม HOVR นี้จะถูกห่อหุ้มด้วย Energy Web ผ้าตาข่ายอีกชั้นนึงเพื่อให้ตัวโฟมคงรูปตอนรับแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการลงน้ำหนักไม่สม่ำเสมอ ซึ่งโฟม HOVR นี้ได้เผยให้เห็นกันแบบเต็มๆ และล้อมกรอบด้วยโฟมด้านนอกอีกชั้นนึง เมื่อลองกดโฟมดูแล้วทั้ง 2 ก็มีความนุ่มที่แตกต่างกัน โดย HOVR จะมีความนุ่มมากกว่า ส่วนโฟมด้านนอกจะมีความนุ่มแน่น ซึ่งจะมาช่วยไม่ให้พื้นชั้นกลางนั้นนุ่มมากเกินไป

ใส่ออกวิ่งครั้งแรกรู้สึกว่า HOVR และโฟมกรอบด้านนอกยังไม่ค่อยพร้อมทำงาน นุ่มแต่ไม่ได้นุ่มมาก พอผ่านไปสัก 20-30 กิโลเมตรจะรู้สึกได้ว่าโฟมนุ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้ออกแนวนุ่มเฟิร์มนะ มีการยุบตัวบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยวบจนทำให้แช่เท่านาน เรื่องแรงส่งคืนมีไม่มากนัก พอรู้สึกได้บ้าง

รองเท้ามีน้ำหนักอยู่ที่ 331 กรัม ไซส์ 10.5 US อาจจะดูว่าเยอะ แต่ถือว่าเป็นปกติสำหรับรองเท้าสายคุชชั่นแบบนี้ ดรอป 8 มม. ไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างกับดรอป 10 มม. เท่าไรนัก ส่วนฐานของพื้นกว้าง เวลาลงเท้าค่อนข้างจะมั่นคง ตอนเลี้ยวตอนกลับตัวทำได้ดี ไม่โคลงเคลง

ส่วนพื้นชั้นนอก Blown rubber ที่มีการแบ่งออกเป็นส่วนๆ ก็มีความยืดหยุ่นและยังมีการยึดเกาะที่ดีอยู่ ในเรื่องความทนทานอาจจะไม่มีมากเท่าไรนัก เพราะที่ลองวิ่งในหมู่บ้านที่เป็นพื้นปูนหยาบก็มีจุดที่สึกหรอไปบ้าง โดยเฉพาะลายจุดเล็กๆ ที่นูนออกมาจากพื้นยางอีกที ส่วนบริเวณส้นเท้าก็เป็นยาง High-abrasion rubber ที่มีความทนทานสูงกว่ายางสีเทา ตรงนี้ก็จะช่วยในเรื่องของการยึดอายุการใช้งานออกไปอีก

รองเท้าเชื่อมต่อกับแอป MapMyRun บนสมาร์ทโฟน

พระเอกของรองเท้ารุ่นนี้ก็คงหนีไม่พ้น ชิปที่ฝังมาในรองเท้า โดยชิปนี้จะคอยทำการเก็บข้อมูลการวิ่งของเรา ไม่ว่าจะเป็น จำนวนก้าว, ระยะความยาวก้าว, รอบขา, ระยะทาง เพื่อนำมาแสดงผลข้อมูลและทำการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ในแอปพลิเคชัน MapMyRun

ซึ่งการแนะนำการวิ่งของเราจากแอปพลิเคชันนั้นจะมีการแนะนำตั้งแต่ครั้งแรกที่ออกวิ่งเลย โดยจะแนะนำไม่ให้เรามีระยะก้าวที่ยาวเกินไป (Stride length) อาจจะทำให้เราบาดเจ็บจากการวิ่งได้ และยังมีแนะนำการใช้รอบขา (Cadence)ให้สัมพันธ์กับระยะก้าวเพื่อทำความเร็วให้เร็วขึ้นได้ ซึ่งการเก็บข้อมูลเหล่านี้ตัวชิปในรองเท้าจะทำการเก็บข้อมูลให้ ไม่จำเป็นต้องพกมือถือออกไปวิ่งด้วย และเมื่อวิ่งเสร็จทำการเชื่อมต่อกับมือถือผ่านทาง Bluetooth ก็สามารถดูข้อมูลการวิ่งของเราบนสมาร์ทโฟนได้ทันที และผลการวิเคราะห์ก็จะตามมาภายหลัง ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถดูการวิเคราะห์และแนะนำได้แล้ว

ทั้งนี้ในแอปพลิเคชันยังมี Customized Training Plan ให้เราออกแบบรูปแบบการฝึกจากภายในแอปพลิเคชันได้ โดยกำหนดเป้าหมายในการวิ่งของเราด้วยการเลือกจาก Plan ภายในแอปพลิเคชันเพื่อออกแบบรูปแบบการฝึกให้ตรงกับเรามากที่สุด แต่การออกวิ่งด้วยรูปแบบการฝึกนี้จะต้องพกมือถือออกไปวิ่งพร้อมกันด้วย ข้อเสียคืออาจจะต้องพกมือถือตามเคย แต่ข้อดีก็คือเราจะได้เห็นข้อมูล ระยะความยาวก้าว, รอบขา, ระยะทาง แบบเรียลไทม์กันเลยทีเดียว

แต่ถ้าใครที่ไม่อยากพกมือถือออกวิ่งด้วย ก็สามารถใช้ Samsung Galaxy Watch Active 2 Under Armour Edition ที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน MapMyRun เลย สามารถเชื่อมต่อรองเท้าได้โดยตรง ในขณะที่วิ่งก็สามารถดูข้อมูลรอบขาแบบเรียลไทม์ได้ทันที และนาฬิกาสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธเพื่อฟังเสียงการแจ้งเตือนเมื่อรอบขาไม่อยู่ในเกณฑ์ได้ทันทีด้วย

นอกจากนี้ใครที่วิ่งลู่วิ่งภายในบ้านกับสถานการณ์ที่ต้องกักตัวเองแบบนี้ ชิปของตัวรองเท้ายังสามารถใช้งานกับแอปพลิเคชัน Zwift เพื่อวิ่งแข่งกับเพื่อนหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมากมาย ไม่ต้องซื้อ Foot pod เพิ่มเติมเลย

สรุป Under Armour HOVR Infinite 2

เป็นรองเท้า Daily trainer ที่น่าสนใจ โฟม HOVR และโฟมกรอบด้านนอกทำงานได้อย่างลงตัว มีความนุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดี ใส่วิ่งได้เรื่อยๆ ชิปในรองเท้าใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชัน MapMyRun ช่วยวิเคราะห์และพัฒนาการวิ่งของเรา อีกทั้งรุ่นใหม่ยังมาในราคาที่ถูกลง โดยมีราคา 4,990 บาท

ใครที่อยากได้รองเท้านุ่มๆ แต่ไม่ยวบจนเกินไป และมีชิปสำหรับเก็บข้อมูล รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย สามารถหาซื้อได้ที่ underarmour.co.th สั่งออนไลน์ ส่งถึงบ้านกันเลย

สำหรับการเลือกไซส์ของรุ่นนี้ อาจจะต้องบวกเพิ่มสักครึ่งไซส์ เพราะปกติผมใส่ 10US แต่คู่นี้ใส่ 10.US กลายเป็นมีที่ว่างเหลือกำลังดี หากใส่เท่าเดิมอาจจะแน่นเกินไป แต่ถ้าใครเท้าเรียวก็ไม่ต้องบวกเพิ่ม

จุดเด่น

จุดสังเกต


อย่าลืมกดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด See First ติดดาวไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟

ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday

Exit mobile version