รีวิว Skechers GOrun Ride 8 Hyper รองเท้าวิ่งราคาคุ้มค่าน่าสอย

หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องและพรีวิวรองเท้าวิ่ง Skechers GOrun Ride 8 Hyper กันไปสักพักใหญ่แล้ว และผ่านภารกิจหลากหลายรุ่น ตอนนี้ก็ถึงแก่เวลาที่จะมารีวิวแล้ว สำหรับรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันเลยครับ

ถ้าไม่อยากอ่าน มารับชมวิดีโอรีวิวกันครับ

ก่อนอื่นมาเล่าถึงเรื่องราวของรองเท้ารุ่นนี้กันก่อน สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้เป็นรองเท้าวิ่งที่ออกมาตั้งแต่เมื่อปลายปี 2019 และได้ถูกรับเลือกเป็นรองเท้าวิ่ง Editor’s Choice ของทีมงาน Runner’s World เนื่องด้วยประสิทธิภาพที่น่าสนใจของรองเท้ารุ่นนี้ และยังมีราคาที่ไม่แพงอีกด้วย ซึ่งราคาที่วางจำหน่ายในประเทศไทยนั้นมีราคาเพียง 3,695 บาท และทาง Sketchers ได้นำโฟมใหม่อย่าง Hyper Burst ที่ได้พัฒนามาใหม่ มีความนุ่ม มีความเด้ง และมีน้ำหนักที่เบาขึ้น มาใช้งานกับรองเท้าวิ่งตัวท็อปของค่าย และยังนำมาใช้งานกับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ด้วย จึงทำให้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ค่อนข้างน่าสนใจ

ดีไซน์เรียบๆ แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

ด้านดีไซน์ของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ หลายๆ คนอาจจะไม่โดนใจสักเท่าไรนัก แต่ถ้าใครที่ชอบแนวเรียบๆ ไม่หวือหวาอะไร ดีไซน์ของรุ่นนี้ถือว่าโดนใจคุณแน่นอน อัปเปอร์มีการใช้ผ้าถัก Engineered two-toned knit ทำให้มีลวดลายจากเส้นไย 2 สีเกิดขึ้น เป็นผ้าถักที่ไม่ได้มีความกระชับมากเหมือนกับ Flyknit ของไนกี้หรือ Primeknit ของอาดิดาส แต่ก็มีความนุ่มและความยืดหยุ่นอยู่พอสมควร

ความถี่ในการถักก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละส่วนของรองเท้า อย่างรอบๆ Toe Box จะถักถี่ขึ้นเพราะต้องเสริมให้มีความแข็งแรง ส่วนจุดที่ต้องระบายอากาศมากๆ อย่างตรง Toe box ก็จะมีการถักให้ห่างขึ้น และเมื่อห่างขึ้นก็นุ่มขึ้นด้วย แต่รูปทรงของรองเท้าค่อนข้างเรียว ใครที่หน้าเท้ากว้างก็อาจจะต้องเผื่อสักครึ่งไซส์ แต่เราเลือกใส่ไซส์เดียวกันกับ Nike ที่มีรูปทรงรองเท้าที่เรียวเหมือนกัน ด้านข้างก็ล้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้บีบรัดจนอึดอัดหรือเจ็บอะไร

เมื่อใส่ออกวิ่ง หน้าผ้าถัก Engineered two-toned knit กลับทำหน้าที่การระบายอากาศได้แบบกลางๆ เรียกได้ว่าไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่ มีอับๆ เท้าสักนิดนึงด้วยซ้ำ แต่ในเรื่องความกระชับถือว่ากำลังดี ตรงส้น Heel Counter เป็นแบบไม่แข็งมากใครที่เผื่อไซส์มาอาจจะต้องร้อยเชือกที่ runner’s loop เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับตรงรอบๆ ข้อเท้า ซึ่งจุดอาจจะเป็นเพราะเป็นการเพิ่มไซส์ขึ้นมาเลยทำให้พอดีกับเท้าก็ได้ ฟองน้ำรอบๆ ข้อเท้าก็นุ่มสบายกำลังดีเลย ลิ้นรองเท้าก็บาง ใส่แล้วไม่อึดอัด และยังมีฟองน้ำกันบีบรัดจากการมัดเชือกอีกด้วย ส่วนเชือกรองเท้าก็ทำได้ดี ไม่หลุดง่าย มัดทบเดียวก็เอาอยู่

Hyper Burst นุ่ม เด้งพอใช้

โฟมใหม่ Hyper Burst ของทาง Skechers จะเป็นการใช้ EVA ที่ผ่านกรรมวิธีด้วยการเติมแก๊ส ไนโตรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์เข้ามาจนทำให้โฟมมีการพองตัวเกิดขึ้น ทำให้มีได้ตัวโฟมที่หนาขึ้นและมีภายในโปร่ง และแน่นอนว่าทำให้มีน้ำหนักที่เบากว่า EVA ด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับโฟม EVA ในความหนาที่เท่ากัน ทำให้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้มีพื้นชั้นกลางของรุ่นนี้มีพื้นที่หนาและมีน้ำหนักที่เบา ซึ่งในไซส์ 9US นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 247 กรัม แต่พอมาเป็น 10US ตามที่ชั่งเองขึ้นมาที่ 284 กรัมเลยทีเดียว อาจจะเป็นการเพิ่มขนาดของวัสดุอื่นๆ ที่มีน้ำหนักมาก

พื้นตรงส้นสูง 33 มิลลิเมตร หน้าเท้าสูง 27 มิลลิเมตร ดรอป 6 มิลลิเมตร หากวัดที่ตัวดรอป จะพบว่า 6 มิลลิเมตรนี่ไม่ใช่ดรอปรองเท้าวิ่งแบบทั่วไป เป็นดรอปที่เริ่มเน้นลงตรงหน้าเท้าหรือกลางเท้าเป็นหลัก ใครที่ไม่ชินกับดรอปแบบนี้ ช่วงแรกๆ อาจจะตึงๆ กล้ามเนื้อขาได้ และยังเป็นดรอปที่มักจะใส่เข้ามาในรองเท้าวิ่งสำหรับทำความเร็วอีกด้วย รุ่นนี้ก็ถือเป็นรุ่นที่ใส่วิ่งทำความเร็วได้ดีเหมือนกัน

เวลาใส่วิ่งจะพบกับความนุ่มของโฟม Hyper Burst และรู้สึกได้เลยว่ามีความหนาแน่นน้อยกว่าโฟม EVA ทั่วไป แต่ก็รู้สึกถึงความเบากว่ามาก เวลาลงเท้ามีการยุบตัวเล็กน้อย และเด้งพอรู้สึกได้ มีการใช้เทคโนโลยี M-Strike ที่ได้รับบันดาลใจมาจากการวิ่งเท้าเปล่า เป็นการวางตำแหน่งของพื้นชั้นกลางที่จะช่วยให้การวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลื่นไหล ซึ่งก็ทำให้เราวิ่งไปได้เรื่อยๆ ได้เช่นกัน หรือจะเร่งความเร็วก็ยังไหว อีกทั้งด้วยน้ำหนักของ Hyper Burst ที่ไม่ได้หนักมาก ทำให้เวลาวิ่งตัวรองเท้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีความรู้สึกพื้นตามมาไม่ทันเลย

แต่ด้วยความที่รองเท้ามีรูปทรงเรียว ฐานของพื้นชั้นกลางก็เรียวตามไปด้วย ถึงแม้จะมีการทำรูปทรงที่เฉียงออกเล็กน้อยแล้ว แต่ก็ถือว่ายังไม่ได้่กว้างมากเท่าไรนัก มีผลในตอนเลี้ยวกลับตัว เหมาะกับการวิ่งไปตรงๆ หรือเลี้ยวนิดๆ มากกว่า

พื้นชั้นนอกใช้ยาง Goodyear ที่มาเป็นแบบเส้นๆ ติดเข้ากับพื้นชั้นกลางเลย โดยดีไซน์แบบนี้จะติดเข้ามาในส่วนที่จะลงกับพื้น ลดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อลดน้ำหนักของรองเท้าลง ซึ่งลวดลายแบบนี้ก็มีการยึดเกาะที่ดี พื้นยาง Goodyear ก็ค่อนข้างที่จะทนทานอีกด้วย หลังจากที่วิ่งบนพื้นปูนหยาบในหมู่บ้านก็มีรอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

ถอดแผ่นรองด้านในออก ก็วิ่งได้

ตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้แล้วที่สามารถถอดแผ่นรองด้านในออก เพื่อให้สัมผัสกับพื้นชั้นกลางแบบเต็มๆ ซึ่งในรุ่นนี้ก็สามารถถอดออกและใส่วิ่งได้ แต่ไม่ได้ทำแผ่นรองด้านในให้อีกชั้น จะเจอกับผ้าตาข่ายแทน ซึ่งเราเป็นคนหน้าเท้ากว้าง เวลาใส่แล้วนิ้วก้อยจะล้นนิดหน่อย ทำให้รู้สึกถึงขอบของพื้นรองเท้า และทำให้รองเท้ารู้สึกหลวมเกินไปด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะเราเผื่อไซส์ไว้ เลยทำให้ยิ่งหลวมขึ้นไปอีก ส่วนฟีลลิ่งก็แตกต่างจากเดิมนิดหน่อย รู้สึกถึงความกระด้างมากขึ้น ส่วนตัวชอบแบบใส่แผ่นรองไว้เหมือนเดิมจะนุ่มนวลกว่า

สรุป Skechers GOrun Ride 8 Hyper

ด้วยรูปทรงดีไซน์อาจจะไม่ถูกใจหลายๆ คนมากนัก แต่ในด้านประสิทธิภาพนี่ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่ถือว่าคุ้มค่ากับราคาคู่นึงเลย พื้นชั้นกลางโฟม Hyper Burst ก็มอบความนุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดี และยังมีความเด้ง ตอบสนองโอเคเลย การวิ่งก็ทำได้อย่างลื่นไหล ใช้วิ่งเรื่อยๆ ก็ได้ เร่งความเร็วก็โอเค เอาไว้ใส่ฝึกกล้ามเนื้อสำหรับดรอปที่แตกต่างก็ได้ สำหรับรุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 3,695 บาท ใครที่อยากได้ก็รอจังหวะดีๆ Supersports หรือ Skechers ใน Lazada มีจัดโปรโมชั่นอยู่บ่อยๆ เลย

จุดเด่น

จุดสังเกต


อย่าลืมกดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด See First ติดดาวไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟

ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday

Exit mobile version