รีวิว รองเท้าวิ่ง Saucony Kinvara 12 ปรับปรุงใหม่ นุ่มกว่าเดิม เบากว่าเดิม

รองเท้าวิ่ง Saucony เอนกประสงค์จากตระกูล Kinvara ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 12 แล้ว โดยรุ่นนี้ได้มีการปรับโฉมใหม่และปรับให้มีน้ำหนักเบาขึ้น และปรับโฉมไปจากเดิมจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม และสำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน

แกะกล่อง ส่องดีไซน์ Saucony Kinvara 12

สำหรับ Kinvara 12 เป็นรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ Kinvara เท่าที่เคยมีมา ด้วยการปรับปรุงใหม่ทำให้มีน้ำหนัก 223 กรัม ในไซส์ 10US เบากว่า Kinvara 11 ที่มีน้ำหนัก 248 กรัม เบาลงกว่า 20 กรัมเลย นอกจากนี้ยังมีการรูปลักษณ์ของพื้นชั้นกลาง PWRRUN ใหม่ มีความโค้ง ความเว้ามากกว่าเดิม รวมถึงปรับตรงท้ายโค้งและยื่นออกมาอีกเล็กน้อย โดยมีการทำแยกออกเป็นสองแฉกเหมือนกับ Carbon X 2 เลย และมีการวางซ้อน PWRRUN+ ในรูปแบบแผ่นเต็มความยาวเท้า เพิ่มความนุ่มและการตอบสนองที่ดี

ตรงอุ้งเท้ายังคงเสริมซัพพอร์ตไว้ให้แบบรุ่นก่อนหน้าอยู่ เพื่อความมั่นคงในเวลาลงเท้า และตัวโฟม PWRRUN ที่มีความนุ่มและตอบสนองได้ดี ในรุ่นนี้ยังเพิ่มพื้นที่สัมผัสตรงหน้าเท้ามากขึ้น เพื่อเพิ่มความรู้สึกและการตอบสนองขณะวิ่งได้ดีขึ้น นั่นหมายความว่าพื้นยางชั้นนอกก็น้อยลงนั่นเอง ซึ่งพื้นชั้นนอกจะเป็นยาง XT-900 ที่มีความทนทานสูง

อัปเปอร์ผ้าตาข่าย Engineered Mesh มาพร้อมกับเทคโนโลยี FORMFIT โอบกระชับเท้าและระบายอากาศได้ดี แต่รูระบายอากาศไม่ได้เห็นเป็นรูขนาดใหญ่แบบรุ่นพี่ Endorphin น่าสนใจว่าจะทำงานได้ดีแค่ไหน เดี๋ยวต้องไปลองกันแบบเต็มๆ และใครที่เห็นสีแล้วคุ้นๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจไปเพราะ Kinvara 12 รุ่นนี้ อยู่ในคอลเลคชั่น Bright Future Black แบบเดียวกับซีรีส์ Endorphin นั่นเอง ซึ่งเป็นสีที่ดูซิ่งมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของดีไซน์และสีก็เป็นเรื่องความชอบส่วนตัว ดังนั้นอาจจะไม่ถูกใจไปทุกคน แต่ส่วนตัวเรามองว่าทำสีได้ซิ่งดี

ประสิทธิภาพ ความรู้สึกหลังใช้งาน Saucony Kinvara 12

ต้องบอกเลยว่า Kinvara 12 คู่นี้ ฟีลลิ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจาก Kinvara ที่ผ่านมาอยู่พอสมควรเลย จนทำให้แฟนๆ Kinvara เสียงแตก บางคนก็ชอบที่ได้ความรู้สึกใหม่ๆ นุ่มขึ้น และยังคงความเฟิร์มอยู่ บางคนก็ไม่ชอบเพราะคาแรคเตอร์ของ Kinvara นั้นหายไป ด้วยพื้นชั้นกลาง PWRRUN ที่ปรับรูปทรงใหม่ มีการเฉือนพื้นชั้นกลางบางส่วนออก ทำให้มีส่วนเว้าส่วนโค้งขึ้นมามากขึ้น ทำให้น้ำหนักของตัวรองเท้าลดลง และพอมีส่วนเว้าส่วนโค้งแบบนี้ทำให้เวลาออกวิ่งแล้วรู้สึกถึงความนุ่มขึ้น แต่เรื่องความกระด้าง ความเด้ง นั้นกลับลดลง จึงทำให้หลายๆ คนเสียดายนั่นเอง

ความกว้างของพื้นช่วงกลางเท้าก็รู้สึกว่าไม่ค่อยราบเรียบมั่นคงเท่ากับรุ่นก่อน แต่ก็ยังมีส่วนที่เสริมขึ้นมาตรงอุ้งเท้าเช่นเคย ตรงส้นเท้ามีโฟมยื่นออกมาเล็กน้อยเพื่อช่วยซับแรงกระแทกเพิ่มเติม ในจังหวะวิ่งมีความสมูทมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร แต่ดรอป 4 มิลลิเมตร จะทำให้เราลงหน้าเท้าหรือกลางเท้าซะส่วนใหญ่

อัปเปอร์หน้าผ้า Engineered Mesh ที่บางกว่าเดิม บางจนให้ความรู้สึกแบบ Endorphin Speed เลย ใส่แล้วไม่อึดอัด และมีพื้นที่ด้านในรองเท้ามากขึ้น ใส่ได้สบายมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี FORMFIT ก็ยังทำให้อัปเปอร์ของรุ่นใหม่นี้ยังให้ความกระชับที่ดีกับเท้า แต่ในเรื่องความรู็สึกของความแข็งแรง รุ่นก่อนหน้าทำได้ดีกว่า ส่วนการล็อคส้นเท้าก็ยังทำได้ดี กระชับ และยังมีดีไซน์สีสันที่สวยงาม

พื้นชั้นนอกมีมาน้อยมาก ซึ่งทำให้ความทนทานอาจจะไม่ได้ทนมาก เวลาลงเท้าหลักๆ ที่สัมผัสกับพื้นจะเป็นพื้นโฟมแบบเต็มๆ หากวิ่งพื้นปูนหยาบบ่อยๆ ก็ไม่น่าจะทนทานเท่าไร แต่ถ้านำมาใส่วิ่งถนน, วิ่งในคอร์ท หรือบนลู่วิ่งไฟฟ้า ก็ไหวอยู่

โดยรวมเป็นรองเท้าวิ่ง Daily trainner สายเอนกประสงค์อยู่เหมือนเดิม แต่คาแรคเตอร์มีเปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนหน้า น้ำหนักเบา นุ่มขึ้น ใส่ซ้อมวิ่งได้ในทุกๆ วัน เน้นให้เราได้ออกแรงอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีอะไรมาสปอยล์ขาของเรา จะซ้อม interval หรือ long run ก็ยังไหว แต่มือใหม่ที่ขาไม่แข็งแรงอาจจะต้องระวังหน่อย เพราะพื้นไม่ได้หนามาก การซัพพอร์ตอยู่ในระดับกลางๆ อีกทั้งดรอปถือว่าค่อนไปทางต่ำ อาจจะตึงน่องในช่วงใส่แรกๆ ได้ ก็มีไว้ใช้ในการฝึกกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ นอกจากจากรองเท้าวิ่งดรอปสูงได้

ในเรื่องราคาก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ กับ Saucony Kinvara 12 ราคา 3,999 บาท จ่าย 4,000 ได้เงินทอน 1 บาท ไปจัดกันได้ที่ร้าน REV RUNNR และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของ Saucony ทั่วประเทศ

ข้อมูลรองเท้า

Exit mobile version