รีวิว Saucony Endorphin Pro 3 รองเท้าวิ่งระดับท็อป เพิ่มความนุ่ม เด้ง แต่นำ้หนักเบาลง

Saucony Endorphin Pro 3 รองเท้าวิ่งระดับท็อปรุ่นใหม่ของปี 2022 ได้มีการปรับโฉมต่างจากเดิมแบบหมดจด ทั้งรูปแบบของพื้นชั้นกลาง, อัปเปอร์ สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามรีวิวกันเลย

พื้น PWRRUN PB หนาขึ้น อุ้งเท้ากว้างขึ้น

Endorphin Pro 3 ยังคงมาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง PWRRUN PB เช่นเคย แต่มีการปรับรูปโฉมใหม่ พื้นหนาขึ้น โดยมีดรอป 8 มม. พื้นที่ส้นสูง 39.5 มม. หน้าเท้าสูง 31.5 มม. (สูงกว่ารุ่นก่อน 2 มม.) เรียกได้ว่าปริ่มๆ สำหรับเกณฑ์ของรองเท้าวิ่งระดับมาตรสากล ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการปรับความกว้างของอุ้งเท้าเพิ่มอีกเล็กน้อยและยังปรับให้มีความเรียบติดกับพื้น น่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคงจากเดิมได้ดี

เทคโนโลยี Speedroll ยังคงถูกใช้งานในรองเท้าวิ่งของ Saucony โดยจะเห็นได้ว่าปลายเท้าโค้งแบบชัดเจน ซึ่งตรงนี้ก็จะช่วยให้การวิ่งได้สมูทลื่นไหล และด้านในมาพร้อมกับแผ่นคาร์บอน S-Curve ที่ช่วยเสริมความมั่นคงและแรงส่งคืนในขณะวิ่ง และยังเพิ่มความนุ่มใต้ฝ่าเท้าด้วยแผ่นรองที่ทำจาก PWRRUN PB ให้ความนุ่มและตอบสนองใต้ฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดี

พื้นชั้นนอกบางลงเหลือ 1มม.

ส่วนพื้นชั้นนอกก็เป็นยาง XT-900 เหมือนเดิม แต่มีการปรับให้บางลงเหลือ 1 มม. จากเดิม 3 มม. และมีการวางที่หน้าเท้าและส้นเท้าเท่าที่จำเป็น พอพื้นบางลงก็ลดน้ำหนักตัวรองเท้าลงได้ พร้อมกับมีการเจาะรูเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้โฟมได้กระจายตัวในจังหวะที่ลงเท้าได้เต็มที่ และจะคืนตัวกลับมาพร้อมกับแรงส่งได้อย่างเต็มที่

อัปเปอร์ Mesh โปร่งกว่าเดิม

ในส่วนของอัปเปอร์จะเห็นได้ว่ามีหน้าผ้ามีความโปร่งมากขึ้น มีรูระบายอากาศที่ใหญ่ชัดเจน แต่ถ้าสังเกตุดีๆ ในรูประบายกาศนั้นจะมีเส้นใยเล็กๆ เป็นแนวขวางไว้อยู่ ตรงนี้ก็ช่วยให้หน้าผ้าที่โปร่งแบบนี้ยังคงมีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา และเส้นใยยังมีความแวววาวสะท้อนกับแสงได้อย่างสวยงาม

แน่นอนว่าอัปเปอร์ของรองเท้าวิ่ง Saucony ยังคงใช้เทคโนโลยี FORMFIT ที่เป็นโครงสร้างบนเนื้อผ้าเพื่อเพิ่มความกระชับและคววามแข็งแรงของอัปเปอร์ไว้ และในรุ่นนี้ก็มีความแวววาวตามแถบโครงสร้าง ดูแล้วมีความสวยงาไม่น้อยเลย ในส่วนของลิ้นรองเท้าก็มาในรูปแบบบางและมีการเจาะรูวงกลมขนาดใหญ่เพื่อการระบายอากาศที่ดีกว่าเดิม และยังมีความแวววาวสวยงามอีก

สำหรับหน้าตาของ Saucony Endorphin Pro 3 นี้ ตอนแรกเห็นจากภาพนึกว่าตัวรองเท้านั้นหนาและอ้วนกว่าเดิม แต่พอได้มาสัมผัสตัวจริงแล้ว ไม่ได้หนาเลย อัปเปอร์มีความบางเบา กระชับเข้ากับเท้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะส้นรองเท้าที่มีความบางแต่ก็มีความแข็งแรงในการประคองส้นเท้าอยู่ พื้นชั้นกลางที่หนาและอ้วนขึ้น แต่พอสวมเข้ากับเท้าแล้วกลับดูเพรียว สวมส่วน พร้อมออกซิ่งกันเลย

ความรู้สึกในการสวมใส่

ก่อนอื่นต้องบอกว่าส่วนตัวยังไม่เคยลอง Endorphin Pro 2 แต่ก็ได้ลอง Endorphin Pro รุ่นแรกมากก่อน ซึ่งรุ่นแรกและรุ่นที่ 2 นั้นยังคงใช้พื้นชุดเดิมแต่มีการปรับอัปเปอร์ใหม่ จึงทำให้ความแตกต่างของ 2 รุ่นก่อนหน้านั้นมีไม่มากนัก แต่สำหรับรุ่นที่ 3 ที่มีการปรับโฉมแบบใหม่หมดจดนี้เรียกได้ว่าได้เปลี่ยนความรู้สึกมาแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว แต่ว่าก็อาจจะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ

ในการใส่วิ่ง บอกเลยว่าซิ่งและนุ่มขึ้น ใครที่มองว่ารุ่นแรกและรุ่นที่ 2 นั้นแข็งหรือกระด้างไป รุ่นนี้ก็ให้ความนุ่มที่มากขึ้น และมีแรงส่งคืนที่มากกว่าเดิม ใครที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่าเพซ 6 น่าจะเหมาะเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากรองเท้าจะช่วยให้เราประหยัดแรงได้แล้ว เทคโนโลยี Speedrool ที่มาในพื้นชั้นกลางยังให้ทรานซิชันการวิ่งได้อย่างลื่นไหลอีกด้วย และรองเท้ายังไม่ได้เค้นให้เราวิ่งเร็วตลอดเวลา วิ่งช้าลงก็ยังพอไหว ส่วนตัวลองวิ่งในแรงที่ใช้เพซปกตที่เพซ 8 แต่ก็ได้เพซ 7 ที่เร็วกว่านั้นมา และเมื่อปล่อยไหลไปตามรองเท้าบางจังหวะช่วงเพลินๆ ก็ขยับไปที่เพซ 6 ได้แบบไม่รู้ตัว

และการปรับรูปแบบพื้นชั้นกลางใหม่ที่อุ้งเท้ามีความเรียบและกว้างมากขึ้นก็ช่วยทำให้การลงเท้านั้นทำได้อย่างมั่นคงและไม่พบอาการเท้าล้มเข้าในแบบรุ่นแรก (บางคนอาจจะยังเจออาการนี้อยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปเท้าของแต่ละคน) ส่วนพื้นชั้นนอกแบบใหม่นี้ก็ให้การยึดเกาะที่ดี และรู้สึกถึงความยืดหยุ่นที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ

ส่วนของอัปเปอร์บอกได้เลยว่าหมดห่วงเรื่องความเปราะบางหรือไปไม่พร้อมกับพื้นชั้นกลางตามที่หลายๆ คนกังวล สำหรับอัปเปอร์ผ้าตาข่าย Mesh นี้จะมีการใช้เส้นใยมาเสริมความแข็งแรงตามรูระบายอากาศเพื่อให้มีความแข็งแรงพอที่จะดึงพื้นชั้นกลางไปพร้อมๆ กันได้ และให้ความกระชับทีี่พอดีกับเท้า รวมถึงตรงส้นที่เพิ่มความแข็งแรงขึ้นมาอีกนิดก็ให้ความกระชับที่มากขึ้น ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ ไม่คอยกังวลว่าจะหลวมหรือหลุด ส่วนลิ้นรองเท้าก็บางเบาไม่อึดอัด และไม่ปลิ้นไปปลิ้นมา เชือกก็มัดทบเดียวแล้วเอาอยู่ แต่ถ้าอยากเพิ่มความสบายใจก็มัดสองทบไปตั้งแต่แรกเลย

สรุป Saucony Endorphin Pro 3 ดีไหม? เหมาะกับใคร?

โดยรวมถือเป็นรองเท้าวิ่งระดับท็อปที่ปรับปรุงมาให้มีความนุ่มและมีแรงส่งมากขึ้นกว่าเดิม มีความมั่นคงดีกว่ารุ่นก่อน อัปเปอร์ก็มีการระบายอากาศดีขึ้น แต่ก็ยังให้ความกระชับและความมั่นใจที่ดี ใครที่ใส่รุ่นแรกแล้วอยากจะเปลี่ยน การอัปเกรดมาเป็นรุ่นที่ 3 ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ กับรองเท้าวิ่งระดับท็อปสำหรับวันแข่งขันรุ่นนี้ แต่การที่จะใส่ออกซิ่งได้ ก็ต้องมีร่างกายและกำลังขาที่แข็งแรงถึงจะรีดประสิทธิภาพของรองเท้าออกมาได้เต็มที่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนทั่วไปจะใส่ไม่ได้เลย รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็ยังใส่ได้ ถ้าร่างยังไม่แข็งแรงพออาจจะพบเรื่องแรงสะเทือนจากแผ่นคาร์บอนที่อาจจะส่งผลถึงหลัง ดังนั้นควรซ้อมให้ร่างกายพร้อมเต็มที่แล้วค่อยมาใส่รองเท้าแนวนี้จะดีกว่า ส่วนใครที่ร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว ก็หวดกันไปได้เลย

สำหรับใครที่สนใจตอนนี้ก็วางจำหน่ายแล้วในราคา 7,590 บาท ที่ Saucony Flagship Store Centralplaza Westgate fl.2, REV RUNNR และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือ Online Store : https://bit.ly/3Q9ub5H

ข้อมูลรองเท้า

Exit mobile version