รีวิวรองเท้าวิ่ง On Cloudsurfer พื้นนุ่ม วิ่งสนุก ครั้งแรกของ On Running ที่ไม่มีแผ่น Speedboard

รองเท้าวิ่ง On Cloudsurfer ถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของรองเท้าวิ่งตระกูล Cloudsurfer ที่ปรับรูปแบบของพื้นชั้นกลางใหม่ และยังเป็นรุ่นแรกที่ถอดแผ่น Speedboard ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ On Running ออก และผลที่ได้ออกมาถือว่าน่าประทับใจ และแปลกใจสำหรับแฟนๆ On Running ด้วย

On Cloudsurfer มีอะไรใหม่?

ยังคงใช้โฟม Helion ที่เป็น Superfoam ของทางแบรนด์ที่มีคุณสมบัติเรื่องความนุ่มและแรงส่งคืน แต่ได้ถูกออกแบบพื้นชั้นกลางใหม่ โดยใช้คอมพิวเตอร์มาคำนวณ ประมวลผล และพัฒนาออกมาจนเรียกว่า CloudTec® Phase ซึ่งรูปแบบที่ออกมาก็จะเป็นพื้นชั้นกลางที่เจาะรูในแนวทะแยงวางเรียงกัน โดยใช้หลักการล้มของโดมิโน่ที่ผ่านการคำนวณองศาอย่างแม่นยำ จึงทำให้รูปแบบของพื้นชั้นกลางแตกต่างจาก CloudTec ที่เป็นรูปก้อนเมฆแบบเดิมๆ อีกทั้งปลายเท้ายังโค้งแบบชัดเจน เพื่อการวิ่งที่สมูทลื่นไหล และยังถอดแผ่น Speedboard ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของรองเท้าวิ่ง On ออกไป ทำให้น้ำหนักของรองเท้าเบาขึ้น โดยคู่นี้มีน้ำหนัก 254 กรัม/ข้าง ในไซซ์ 10US ผู้ชาย มีดรอป 10 มม.

นอกจากนี้อัปเปอร์มาพร้อมกับหน้าผ้าตาข่าย Engineered Mesh และทาสีด้วยเทคโนโลยี Dope dye ช่วยให้ประหยัดน้ำในการผลิตมากขึ้น เสริมความมั่นคงของหน้าเท้าด้วยการปักทอโครงสร้าง เพิ่มความกระชับล็อคเท้าได้ดี โดยคู่นี้มาในสีดำก็ให้ลุคเรียบหรู สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ ส่วนพื้นชั้นนอกก็ใช้แผ่นยางปลายเท้าและส้นเท้าที่ยึดเกาะได้ดีทั้งพื้นแห้งและพื้นเปียก

ประสิทธิภาพในการสวมใส่

ในการสวมใส่รองเท้าวิ่งคู่นี้ครั้งแรกต้องบอกเลยว่าประทับใจในเรื่องของความนุ่มเอามากๆ และค่อนข้างที่จะแปลกใจในการเอาแผ่น Speedboard ที่เปรียบเสมือนแกนกลางสำหรับความมั่นคงและช่วยเสริมแรงส่งคืนมาในทุกรุ่นของ On แต่รุ่นนี้กลับไม่มีมาให้ โดยพื้นชั้นกลางโฟม Helion นั้นมีความนุ่มและน้ำหนักเบาอยู่แล้ว พร้อมกับการออกแบบพื้นชั้นกลางแบบใหม่ที่เรียกว่า CloudTec® Phase ที่ไม่ได้เรียงกันในรูปแบบก้อนเมฆเหมือนเดิมแล้ว แต่จะเป็นช่องว่างที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากการเรียงกันของโดมิโน่ จึงมีมุมองศาที่แตกต่างกันตั้งแต่ส้นเท้ายาวจนไปถึงหน้าเท้า

ซึ่งการเรียงกันในรูปแบบใหม่นี้ จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการซัพพอร์ตแรงกระแทกตั้งแต่การลงเท้าและจะกระจายน้ำหนักจนไปถึงหน้าเท้าและยกเท้าขึ้น ทำให้การวิ่งจะรู้สึกถึงความนุ่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเวลาลงเท้าพื้นชั้นกลางจะค่อยๆ ยุบตัวลงและกลับคืนรูปร่างเดิม ทำให้รู้สึกถึงแรงส่งคืนกลับมาในจังหวะที่กำลังจะยกเท้าอีกด้วย พอผสมสานกับรูปทรงโค้งของพื้นชั้นกลางก็ส่งผลให้การวิ่งทำได้อย่างสมูทลื่นไหลและวิ่งได้แบบเพลินๆ ไปได้เรื่อยๆ

และการลงเท้าหากใครที่ถนัดลงหน้าเท้าก็อาจจะทำให้ไม่รู้สึกถึงประสิทธิภาพความนุ่มและแรงส่งคืนของพื้นชั้นกลางแบบใหม่นี้มากเท่าไรนัก แต่ถ้าใครที่วิ่งลงส้นเท้าหรือช่วงกลางเท้าก็จะพบกับความนุ่มและแรงส่งคืนได้ชัดเจนกว่า

ในด้านอัปเปอร์ก็มอบการล็อคกระชับที่ดี หน้าผ้าตาข่ายน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี ช่วงหน้าเท้าที่มีการเสริมล็อคกระชับด้วยโครงสร้างก็ให้ความรู้สึกถึงการล็อคด้านข้างได้ดีด้วย ส่วนส้นเท้าก็ถือว่าทำมาได้ดี ไม่มีอาการส้นหลุดและมีความนุ่มที่ซัพพอร์ตส้นเท้า ให้ความนุ่มสบายกำลังดี มอบความมั่นใจในเวลาวิ่งและไม่ต้องกังวลเรื่องอาการหลุด

ในด้านการยึดเกาะก็ถือว่าทำได้ไม่แย่ มีการวางพื้นยางพื้นชั้นนอกไว้ที่บริเวณหน้าเท้าและส้นเท้าเล็กน้อย หากเป็นการวิ่งปล่อยไหลตามรูปทรงของพื้นชั้นกลางก็จะไม่มีการเสียดสีเข้ากับพื้นโฟมที่เปิดโล่งในช่วงกลางเท้า ส่วนใครที่วิ่งแบบลงช่วงกลางเท้าและแช่เท้าก็อาจจะทำให้เกิดการสึกหรอได้ง่ายกว่า

ด้วยน้ำหนัก 254 กรัมในไซซ์ 10US ถือเป็นน้ำหนักที่กลางๆ ไม่เบาและไม่หนักมาก จึงทำให้สามารถนำมาใส่วิ่งได้แบบสนุก ไม่ถ่วงขา และการรองรับแรงกระแทกที่ทำมาได้ดีจึงทำให้สวมใส่วิ่งได้ในทุกๆ วัน แต่การยุบตัวของพื้นชั้นกลางและต้องรอจวังหวะในการถ่ายเทมุมองศาจากส้นเท้ามาหน้าเท้าจึงทำให้รู้สึกว่าการตอบสนองสำหรับการใส่ลงคอร์ทหรือ Interval อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก เหมาะกับการสวมใส่วิ่งทั่วไป, ระยะไกล

ในการเลือกไซซ์ ส่วนตัวยังคงเลือก True to size หรือตรงไซซ์เดิมกับรองเท้าวิ่งทั่วไป ด้านหน้าเหลือกำลังพอดี ส่วนด้านข้างก็ไม่บีบรัดจนทนไม่ไหว จึงทำให้ไม่ต้องบวกเพิ่มหรือลดไซซ์ใดๆ

สรุป On Cloudsurfer ดีไหม? เหมาะกับใคร?

ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่ค่อนข้างเอนกประสงค์ สามารถใช้งานได้ทั้งวิ่งและมีดีไซน์ที่สวยงามสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ พื้นชั้นกลาง CloudTec® Phase ที่มอบความนุ่มสบาย และไม่เจอกับความแข็งของแผ่น Speedboard ใต้ฝ่าเท้า แต่ก็ยังมีแรงส่งคืนกลับมาได้ดี น้ำหนักกลางๆ ก็ทำให้ไม่ถ่วงเท้าเวลาวิ่ง สามารถใส่วิ่งได้ทั้งระยะสั้นและระยะไกล ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย ถือว่าตอบโจทย์นักวิ่งที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งและรองเท้าสำหรับสวมใส่ไปทำงานที่จบในคู่เดียว ไม่ต้องพกพาหลายคู่

ใครที่สนใจตอนนี้ก็วางจำหน่ายในราคา 6,600 บาท มีให้เลือกหลายสีสันที่

ข้อมูลรองเท้า

Exit mobile version