Nike Zoom Fly 3 เป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่ง Zoom Series ที่เพิ่งปล่อยออกมาวางจำหน่ายในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาพร้อมๆ กับ Nike ZoomX Vaporfly Next% และ Nike Zoom Pegasus Turbo 2 สำหรับทาง SNKR TODAY ก็ไม่พลาดที่จะได้สีเขียว Electric Green มาอยู่ในครอบครอง ขอเชิญทุกท่านไปรับชมแกะกล่อง ส่องดีไซน์ของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้กันเลยครับ
ไม่อยากอ่าน เชิญชมวิดีโอแกะกล่องกันได้เลย
แกะกล่อง ส่องดีไซน์ Nike Zoom Fly 3
ตัวกล่องยังคงมาในกล่องสีส้มเช่นเคย แต่ฟอนท์ด้านข้างเปลี่ยนไป มีตัวเลขไซส์ US ที่ใหญ่ขึ้นชัดเจน และนอกจากนั้นก็มีรายละเอียดอื่นๆ ของรองเท้า
สำหรับสีที่ทาง SNKR TODAY เลือกมาก็คือสี Electric Green หรือหลายๆ คนเริ่มเรียกสีนี้ว่าสี OG กันแล้ว สีเขียวนีออนที่แสนจะสะดุดตา โดยว่ากันว่าสีเขียวแบบนี้จะเป็นสีที่สายตามนุษย์มองเห็นได้ไวที่สุด ถึงแม้จะเป็นสีเขียวเหมือนกัน แต่ก็จะแตกต่างกับ Nike ZoomX Vaporfly Next% ที่เป็นสีเขียว Phantom Glow ตามสูตรทางเคมของไนกี้เพื่อให้สีนี้มีลักษณะสะท้อนแสงตามในแบบที่ทางไนกี้ต้องการ
สำหรับรุ่นนี้ อัปเปอร์มีการเปลี่ยนมาใช้หน้าผ้าแบบใหม่ Vaporweave ซึ่งเป็นผ้าชนิดเดียวกันที่ใช้อยู่บน Vaporfly Next% ที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และไม่อมน้ำ (คล้ายกับหน้าผ้า TPE บน Zoom Fly SP) แก้ปัญหาการอมน้ำของผ้าถัก Flyknit รุ่นก่อนได้เป็นอย่างดี
มี Swoosh ขนาดใหญ่คาดตั้งแต่ช่วง Toe box ไปจนถึงข้อเท้า โดยลวดลายของ Swoosh นี้ก็ออกแบบมาให้ดูมีความเป็นเรซซิ่งดี
ภายในยังมีผ้าอีกชั้นสีขาวตรงหน้าเท้าและสีดำตั้งแต่ช่วงกลางเท้าขึ้นทรงไปถึงตรงข้อเท้า เรียกว่าทรง Bootie ที่เป็นเหมือนลักษณะถุงเท้า สามารถสวมใส่เข้าไปได้เลย ไม่มีลิ้นรองเท้า ตรงส่วนนี้จะเป็นผ้ายืดหน่อยๆ มีเจาะรูระบายอากาศไว้อยู่ ใครที่ไม่ชอบใส่ถุงเท้าวิ่งรุ่นนี้ก็น่าจะตอบโจทย์
และตรงรอบๆ ข้อเท้าก็ไม่ได้เป็นยางรัดข้อเท้าแต่อย่างใด หากตรงไซส์ใส่แล้วก็จะสบายๆ หน่อย ด้านในก็มีบุฟองน้ำเสริมไว้สำหรับการล็อคดาวน์ใต้ข้อเท้าขึ้นมา
ตรงส้นเท้าด้านหลังยังคงคอนเซ็ป Racing มีช่องสำหรับการเขียนเวลาลงไป และตรงด้านหลังนี้ก็จะมีแผ่นเสริมความแข็งแรงตรงช่วงส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายอยู่
และด้วยความที่เปลี่ยนอัปเปอร์ใหม่ ทำให้รุ่นนี้สามารถใส่ตรงไซส์ได้ หรือใครที่เท้าเรียวก็อาจจะต้องลดลงครึ่งไซส์เลย ห้ามเผื่อไซส์แบบ Zoom Fly SP เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจจะหลวมเกินไป
ไนกี้ น่าจะดันโฟมนี้ยาวๆ แล้ว ยังคงใช้โฟม Nike React มาเป็นพื้นชั้นกลางที่มีคุณสมบัติ นุ่ม เด้ง ซัพพอร์ตดี บวกกับเสริมแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์เข้าไปข้างใน ทำให้มีการดีดพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้มากกว่าเดิม ออกแบบตามหลักไดนามิค ส้นลาดเอียง และมีการปรับดรอปลดลงมาเหลือ 8 มม. จากเดิมที่ 10 มม. ทำให้วิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
มีการปรับปรุงพื้นชั้นนอกในรุ่นนี้เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นพื้นแบบเดียวกันกับ Vaporfly Next% ที่เพิ่มพื้นยางเข้ามาในช่วงหน้าเท้าและตรงส้นนิดหน่อย ซึ่งจะมีการแบ่งออกเป็นเส้นๆ เพื่อการยึดเกาะและรีดน้ำได้ดีกว่าเดิม รวมถึงช่วงหน้าเท้าก็มีความกว้างเพิ่มขึ้นเพื่อการวางเท้าและกดเพื่อทำความเร็วได้ดีขึ้น
สำหรับความรู็สึกในการใช้งานต้องขอไปลองใส่วิ่งกันดูสักพักก่อนนะ แล้วเราจะกลับมาพบกันใน Review Performance สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้กัน
อย่าลืมกดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด See First ติดดาวไว้เพื่อไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ 👟👟👟