รีวิว Nike React Infinity Run Flyknit 3 รองเท้าวิ่งพื้นนุ่ม ซัพพอร์ตดี เกิดมาเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง

Nike React Infinity Run Flyknit เป็นรองเท้าวิ่งที่อยู่ในโปรเจค Run Fearless ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง โดยปี 2022 นี้ ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งส่วนตัวได้ใช้งานรุ่นแรก แต่ไม่เคยลองสวมใส่รุ่นที่ 2 ซึ่งในการรีวิวนี้ ก็จะมีการเปรียบเทียบกับรุ่นแรกบ้างในบางช่วง ซึ่งรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่นี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามรีวิวกันเลย

อัปเปอร์ Flyknit รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากเดิมมากนัก

สำหรับรุ่นใหม่นี้ หากดูผ่านๆ แล้ว ก็ยังบอกได้ว่า “ดูไม่ต่าง” จากรุ่นที่แล้วมากนัก แต่ในรุ่นนี้ได้มีการปรับรูปแบบผ้าถัก Flyknit ใหม่อีกครั้ง โดยจะแตกต่างจากรุ่นแรกที่มาในผ้าถักแข็งๆ และบาง ส่วนรุ่นที่ 2 จะมีความหนาแข็งแรงมากขึ้น แต่ในรุ่นที่ 3 นี้กลับดูเพรียวลงอีกครั้ง และมีความยืดหยุ่นมากกว่าทั้งสองรุ่นที่ผ่านมาอีกด้วย

ในรุ่นใหม่นี้ยังคงใช้ลิ้นรองเท้าแยกออกมาเช่นเคย แต่ว่าจะเป็นลิ้นรองเท้าที่แบบไฮบริด มีความสั้นกว่าปกติทั่วไป โดยจะแยกจากตรงช่วงรูร้อยเชือกที่ 3 ไปแล้ว โดยบริเวณรูร้อยเชือก 1-3 นั้นจะเป็นผ้าถักที่มีความกระชับยืดหยุ่น ให้ความกระชับหลังเท้าได้ดีแบบถุงเท้าอยู่และส่วนที่เป็นลิ้นรองเท้าก็จะมอบความสบายและไม่อึดอัดเกินไป ใครที่มีหลังเท้าสูงก็สามารถปรับความกระชับได้มากกว่ารูปแบบ sock-like

บริเวณรอบๆ ข้อเท้าบุนวมบางลงกว่ารุ่นที่แล้วแบบชัดเจนมากๆ นี่น่าจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้รองเท้าวิ่งคู่นี้ดูเพรียวลงกว่าเดิม แต่การบุนวมบางลงแบบนี้ก็ยังให้ความนุ่มที่กำลังดีและความกระชับอยู่ และยังคงมาพร้อมกับ Heel clips รอบๆ ส้นเท้าที่ยาวไปถึงช่วงกึ่งกลางเท้าก็ไม่ได้ทิ่มแทงอุ้งเท้าแบบรุ่นแรกอีกแล้ว ในเรื่องของการระบายอากาศก็ต้องบอกว่าไม่ดี แต่ก็ไม่แย่

พื้นชั้นกลาง React

พื้นชั้นกลางยังคงมาในรูปแบบเดิม โดยยังคงใช้ React รูปทรงโค้ง rocker-geometry เพื่อช่วยลดการกระแทกในจังหวะที่ลงเท้า และยังช่วยให้วิ่งได้อย่างไหลลื่นจนไปถึงจังหวะยกเท้าขึ้น

น้ำหนัก 314 กรัม ในไซส์ 10US ผู้ชาย ถือว่าเป็นน้ำหนักที่หนักอยู่พอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่รับได้กับรองเท้าวิ่งแนว Daily trainer ทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นน้ำหนักเบา ทำความเร็ว รองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นแนววิ่งเรื่อยๆ ใส่ได้ทุกวันมากกว่า

พื้นยางชั้นนอกที่ยังคงมาในรูปแบบเดิมตั้งแต่รุ่นแรก มีการวางแบบเกือบเต็มพื้นมากขึ้น และมีการเว้นช่องว่างเพื่อความยึดหยุ่นในการวิ่ง สำหรับพื้นยางชั้นนอกแบบนี้ที่ผ่านมาก็ยึดเกาะได้ดีและยังให้ความทนทานอยู่

ลวดลายยกย่องต้นกำเนิด Nike International และ Nike Athletic Department

ในสีนี้จะมาพร้อมกับสีสันและกราฟิกจากเรื่องราวในอดีตเพื่อยกย่องให้กับต้นกําเนิดของ Nike International และ Nike Athletic Department ด้วยการลงข้อความที่ด้านข้าง Heel Clips และพื้นชั้นกลางด้านนอก พร้อมกับมีโลโก้ด้านในแผ่นรองเท้าทั้ง 2 ข้าง รวมถึงสีสันที่ดูค่อนข้างเรียบๆ และย้อนยุคหน่อยๆ

ประสิทธิภาพและความรู้สึกในการสวมใส่

มาเริ่มที่อัปเปอร์กันก่อน อย่างที่กล่าวไปว่าอัปเปอร์ของรุ่นนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ผ้าถัก Flyknit ที่มีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น ทำให้เวลาสวมใส่รู้สึกถึงความกระชับแบบผ้าถัก Flyknit ยุคแรกๆ อย่าง Nike Epic React Flyknit เลย แต่ก็ไม่ได้ย้วยจนล็อคไม่ค่อยอยู่ ในเรื่องความแข็งแรงของหน้าผ้าก็ถือว่าโอเคในระดับที่ดีอยู่เหมือนกัน และตรงลิ้นรองเท้าก็ให้ความรู้สึกสายไม่รัดหลังเท้า ความกระชับตรงส้นเท้าก็ทำมาได้ดี ถึงแม้จะบุนวมที่บางลง ก็ไม่ได้หลวมหรือส้นหลุดอะไร โดยเฉพาะ Heel Clips ไม่แทงอุ้งเท้าแบบรุ่นแรกแล้ว ใส่ได้สบายๆ เลย

ส่วนเรื่องของการระบายอากาศก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมาก ถือว่ารับได้กับการใช้งานผ้าถัก แต่ถ้าใครที่เหงื่อเยอะๆ ก็อาจจะต้องทำใจเรื่องรองเท้าเปียกสักหน่อยนึงนะ

หากใครที่ยังติดใจเรื่องความนุ่ม และความลื่นไหลของพื้นชั้นกลาง React รูปทรงโค้ง rocker-geometry รุ่นนี้ก็ยังให้ความรู้สึกที่เหมือนเดิม การรองรับแรงกระแทกทำให้ได้ดี และน้ำหนักรวมถึงความโค้งของพื้นชั้นกลางนี้มีส่วนช่วยในจังหวะที่เราก้าวเท้า ยกเท้า และลงเท้า ให้ลื่นไหลและสมดุล รู้สึกได้ว่าเป็นการลงเท้าที่มั่นคง ปลอดภัย และสบายข้อเท้าเอามากๆ รวมถึงด้านในมีการเสริมอุ้งเท้าเข้ามาช่วยให้คนที่มีรูปเท้าแบนไม่มากยังสามารถสวมใส่ได้

พื้นยางชั้นนอกก็ยังทำหน้าที่ยึดเกาะได้ดี และมีการวางตำแหน่งของพื้นยางชั้นนอกตามจุดที่สัมผัสกับพื้นมากที่สุด แต่ยังมีการเว้นพื้นที่สำหรับความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทำให้การวิ่งยังทำได้ดี

สรุปความคิดเห็น Nike React Infinity Run Flyknit 3 ใส่ดีไหม? เหมาะกับใคร?

ส่วนตัวมองว่าการที่รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเยอะ เพราะที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้ว จึงยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน พื้นชั้นกลางที่ให้ความนุ่ม การรองรับแรงกระแทกที่ดี วิ่งเสร็จแล้วรู้สึกไม่ค่อยล้า ส่วนตัวยังคิดว่าเพราะพื้นชั้นกลางทรงโค้งและน้ำหนักที่ให้มาก็มีส่วนช่วยให้เราวางเท้าได้ถูกหลักมากขึ้นเพื่อลดแรงกระแทกตามจุดข้อต่อต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และอัปเปอร์ก็ใส่สบายมีความกระชับ รวมถึงการแก้ปัญหาแทงอุ้งเท้าที่หายไป ทำให้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้เป็นรองเท้าวิ่งที่ใส่สบายที่สุดสำหรับรองเท้าวิ่ง Daily trainer สำหรับผมในตอนนี้ไปแล้ว ถึงแม้น้ำหนักตัวของรองเท้าอาจจะดูเยอะเกินไปสักนิด แต่ก็ยังถือว่ารับได้อยู่ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่เอามาใส่วิ่งทุกๆ วัน ไม่ต้องเร่งความเร็วอะไรมากมาย เน้นการรองรับแรงกระแทก วิ่งแล้วไม่เจ็บ Nike React Infinity Run รุ่นที่ 3 นี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะเอามากๆ

สำหรับการเลือกไซส์ ส่วนตัวยังเลือก 10US เหมือนรองเท้าไนกี้รุ่นอื่นๆ อาทิ Nike Zoom Fly 4, Nike ZoomX Vaporfly NEXT%, Nike ZoomX Invincible Run Flyknit 2 แต่การสวมครั้งแรกตรงด้านข้างเท้าจะรู้สึกกระชับกว่าปกติเล็กน้อย แต่ใส่ไปสักพักก็จะโอเคขึ้น

Nike React Infinity Run Flyknit 3 ราคา 5,900 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ Iam247 มีให้เลือกหลายสีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าสีนี้ก็ดูดีอยู่นะ ไม่เด่น แต่ก็ไม่เรียบจนเกินไป ใครที่อยากลองไซส์ก็ลองไปที่หน้าร้านสาขาต่างๆ ตามด้านล่างนี้ได้เลย

—————————–

อย่าลืมกดติดตาม กดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด Favorite ใส่รายการชื่นชอบไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟

ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday

อ่านข่าวในรูปแบบเว็บไซต์ได้ที่ https://snkrtoday.com

Exit mobile version