ไนกี้เปิดตัว Nike Air Zoom Alphafly NEXT% รองเท้าวิ่งแข่งขันระดับท็อปรุ่นใหม่

หลังจากที่รองเท้าวิ่งของคิปโชเก้ใส่วิ่งทำหลาย Sub 2 เป็นประเด็นถกเถียงกันในเรื่องของกฏรองเท้าที่จะรับรองโดย IAAF ว่าจะโดนแบนหรือไม่นั้น ล่าสุดทางไนกี้ก็ได้ทำการเปิดตัวรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วออกมาใหม่ พร้อมกับเล่นตามกฏที่ออกมาด้วย และการเปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่นี้ไม่ได้มีมาเพียงรุ่นเดียว แต่มาหลายรุ่นเลย โดยมี Nike Air Zoom Alphafly NEXT% เป็นผู้นำรองเท้าวิ่งในกลุ่มนี้ด้วย

ก่อนอื่นเลย ทางไนกี้นั้นมีรองเท้าวิ่งหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Run Easy, Run Strong, Run Long และ Run Fast ซึ่งรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่นี้ถูกจัดอยู่ในหมวด Run Fast เลย มาอยู่กลุ่มเดียวกับ Vaporfly , Zoom Fly, Turbo และ Pegasus เลย

Nike Air Zoom Alphafly NEXT%

เป็นรองเท้าที่ปรับมาจากคู่ที่คิปโชเก้ใส่วิ่งทำหลาย sub 2 นั่นเอง โดยรุ่นสีขาวชมพูที่เราเห็นก่อนหน้านั้นเป็นรุ่นต้นแบบ ซึ่งเราไม่มีทางทราบเลยว่าข้างในใส่อะไรไว้บ้าง แต่รุ่นที่ทำการเปิดตัวนี้ก็ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดแล้ว

Zoom Air Pods แบบคู่ใต้หน้าเท้า ช่วยในเรื่องรองรับแรงกระแทกและเพิ่มแรงส่งคืน

สำหรับรุ่นนี้ได้มีชื่อเรียกตามที่เคยหลุดออกมา แต่มีการเพิ่มคำว่า Air Zoom เข้าไปในชื่อ เนื่องจากมีการใช้ Zoom Air Pods มาวางคู่กันที่หน้าเท้ามาช่วยในเรื่องรองรับแรงกระแทกและเพิ่มแรงส่งคืน ซึ่งเจ้า Zoom Air Pods นี้ก็ได้เริ่มใช้งานบนรองเท้าบาสเก็ตบอลอย่าง Nike LeBron 17 และรองเท้าเทรนนิ่ง Nike Air Zoom SuperRep ด้วย

พร้อมกับเพิ่มปริมาณโฟม ZoomX เข้าไปอีก (Vaporfly NEXT% ก็เพิ่มปริมาณมาจาก Vaporfly 4%) ส่วนบนเปลี่ยนอัปเปอร์ใหม่ ไม่ได้ใช้ VaporWeave แบบ Vaporfly NEXT% แล้ว เปลี่ยนมาใช้ผ้าถักที่เบาและโปร่งกว่า แถมยังแข็งแรงกว่าเดิม ชื่อว่า Atomknit (เวอร์ชันใหม่ของผ้าถัก Flyknit)

ผ้าถักแบบใหม่ Atomknit

แน่นอนว่ามาพร้อมแผ่นคาร์บอนเต็มความยาวเท้า 1 แผ่นถ้วน ซึ่งแผ่นคาร์บอนจะมาช่วยในเรื่องของความเสถียร เพิ่มการวิ่งที่ไหลลื่น เพิ่มความมั่นคงและช่วยในเรื่องของแรงขับในขณะวิ่ง รองเท้าวิ่งรุ่นนี้น่าจะมาอยู่ในระดับท็อปเหนือ Nike ZoomX Vaporfly NEXT% ไปอีก

Nike Air Zoom Tempo NEXT% และ Nike Air Zoom Tempo NEXT% FlyEase

Nike Air Zoom Tempo NEXT%

รองเท้าสำหรับการใส่ซ้อมทำความเร็ว ดีไซน์มาให้มีความทนทานมากกว่า Air Zoom Alphafly NEXT% โดยใช้หลักโครงสร้างแบบเดียวกัน ใช้โฟม ZoomX มี Zoom Air Pods วางคู่กันตรงหน้าเท้า และแผ่นคาร์บอนช่วงหน้าเท้าไปจนถึงกลางเท้า (คิดว่าวางแผ่นคาร์บอนตามแนวใต้โฟมสีดำ) และมีการใช้โฟม React ตรงส้นเท้าเพื่อการรองรับแรงกระแทกและเพิ่มความทนทานในการใช้งานมากขึ้น มีทั้งแบบเชือกธรรมดาและแบบ FlyEase ที่สวมใส่ได้ง่ายกว่า

Nike Air Zoom Tempo NEXT% FlyEase

FlyEase ได้ใช้มาในรองเท้าหลายรุ่นแล้ว ล่าสุดก็เป็นรองเท้าบาสเก็ตบอล เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการล็อคดาวน์ในกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวทุกทิศทางนั้น FlyEase ก็เอาอยู่ สำหรับในรุ่นนี้จะเป็นแบบการดึงเชือก เหมือนกับ Fast Fit ใน Air Jordan 33 และ Kobe AD NXT

ซึ่งแผ่นคาร์บอน, Zoom Air Pods และโฟม ZoomX นี้ ทางไนกี้จะเรียกว่า Nike NEXT% System ต่อไปรองเท้าที่ใช้ระบบนี้ก็น่าจะเป็นรองเท้าที่อยู่ในตระกูล NEXT% ด้วย

และตามข่าวที่หลุดๆ ออกมา คาดว่ารองเท้าวิ่งรุ่นใหม่อย่าง Alphafly NEXT% นี้จะวางจำหน่ายวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนหน้าเว็บไซต์ของประเทศไทยแจ้งว่าจะวางจำหน่ายช่วงเดือนมีนาคมที่กำลังจะถึงนี้

นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวรองเท้าวิ่งลู่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Nike Air Zoom Alphafly NEXT% ถึง 2 รุ่น ได้แก่ Nike Air Zoom Viperfly และ Nike Air Zoom Victory

Nike Air Zoom Viperfly

ดีไซน์ออกมาเพื่อการวิ่งระยะ 100 เมตรในลู่ มีแผ่นคาร์บอนใต้ฝ่าเท้าพร้อมโฟม ZoomX นิดหน่อยตรงส้นเท้า พร้อมกับ Zoom Air ตรงหน้าเท้าเพื่อการรองรับแรงกระแทกและการตอบสนองที่ดีมีแรงส่งคืน เนื่องจากเป็นรองเท้าวิ่งระยะสั้นก็เน้นการระเบิดพลังภายในไม่กี่วินาที จึงไม่จำเป็นต้องมีระบบการรองรับแรงกระแทกมากนัก การใส่โครงสร้างต่างๆ ให้น้อยที่สุดก็เป็นเรื่องที่ดี

Nike Air Zoom Victory

รองเท้าวิ่งลู่ที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งระยะ 800 เมตร – 10 กิโลเมตร โครงสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Alphafly NEXT% ใช้โฟม ZoomX, แผ่นคาร์บอน และ Air Zoom ส่วนบนใช้ผ้าถัก Atomknit แบบใหม่ที่มีความโปร่ง ระบายอากาศได้ดี

ที่มา Nike

Exit mobile version