แกะกล่อง รีวิว Nike Air Max 720 “Northern Lights”

อดทนไม่ไหว ต้องจัดมาจนได้สำหรับ Nike Air Max 720 “Northern Lights” รองเท้า Lifestyle sneaker รุ่นต่อยอดจาก Nike Air Max 270 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยมีการวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา ที่ร้าน Atmos Bangkok, Carnival Store และ SEEK Thailand ในราคา 6,400 บาท วันนี้ก็เลยเป็นโอกาสอันดี มาแกะกล่องรีวิว พร้อม On feet มาให้ได้ชมกัน ไปดูกันเลย

ตามปกติ ตัวเลขต่อท้ายของรองเท้าตระกูล Air Max จะเป็นปีที่วางจำหน่าย เช่น Air Max 95 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1995, Air Max 97 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1997 จนมาถึงปีที่แล้ว Air Max 270 จะเป็นตัวเลขที่แสดงถึง “องศา” ของ Air ที่เรามองเห็นนั่นเอง โดย Air Max 720 รุ่นนี้จะมองเห็นได้ 360 องศา ใน 2 มิติ ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่งเมื่อรวมกันจึงกลายเป็น 720 องศานั่นเอง

ในส่วนของชุดสี “Northern Lights” นี้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของยุโรปตอนบน โดยสีจะเป็นแสงสีเขียว ฟ้า ม่วง ไล่เฉดสีกันอย่างสวยงาม และ Air Max 720 ก็จำปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในโลกนี้มาทำเป็นชุดสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลาวา, ทางช้างเผือก รวมถึงสีของพระอาทิตย์ขึ้นและตก ซึ่งจะออกมาหลังจากนี้ ต้องติดตามกันต่อไป

ไม่อยากอ่าน เชิญชมวิดีโอได้เลย

แกะกล่อง รีวิว Nike Air Max 720 “Northern Lights”

ตัวกล่องของรุ่นนี้ค่อนข้างจะพิเศษ โดยมีโลโก้ Air, Air Max ของทางไนกี้มาแปะไว้ทั้งกล่อง ซึ่งมีการทำแฟล็กสะท้อนแสงสวยงาม ถ้าหากดูสีต่างๆ ที่แสดงผลตามที่แสงตกกระทบก็จะเป็นสีของแสงเหนือนั่นเอง

แผ่นกันเสียดสีที่ใส่มาในกล่อง ก็จะเป็นสีเหมือนกับโลโก้ที่อยู่ตามรอบกล่อง ตามปกติก็จะได้แค่กระดาษสี ถือว่าเป็นกิมมิคที่น่าสนใจของรุ่นนี้ ทำให้เราอยากเก็บไว้ทั้งกล่องเลย

สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ 75% ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ถือว่าเป็นรองเท้าที่รักษ์โลกมากที่สุดรุ่นนึงเลยทีเดียว ตัวหน้าผ้าจะมีวัสดุเหมือนกับ Air Max 2017 คาดว่าจะเป็นผ้า Flymesh ที่มอบความสบายและการระบายอากาศให้กับเท้า และยังมีการทำเป็นลวดลายเว้าและนูนบนหน้าผ้าอีกด้วย

รุ่นนี้ยังเป็นรุ่นที่มี Air ขนาดใหญ่และสูงที่สุด โดยมีความสูง 38 มิลลิเมตร ทำลายสถิติ 32 มิลลิเมตรของ Air Max 270 แชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วไป

รุ่นนี้ยังมีการนำเทคโนโลยี Air แบบเต็มผืนมาใช้ในรองเท้าไลฟ์สไตล์ครั้งแรก โดยปกติเราจะเห็นเทคโนโลยีนี้ในรองเท้ากีฬามากกว่า เพราะด้วยคุณสมบัติที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ทีนั่นเอง

ทั้งนี้ยังมีการปรับแรงดันอากาศภายในแอร์เพื่อให้เหมาะกับการใส่เดินมากขึ้น สิ่งที่ได้มาก็คือความนุ่มสบายและการรองรับแรงกระแทกได้ดี

ฟีลลิ่ง On-feet

จากที่เคยมี Air Max 2014 ใส่ครั้งแรกไม่ค่อยรู้สึกถึงความนุ่มเท่าไร แต่สำหรับรุ่นนี้เมื่อได้ลองใส่เดินครั้งแรก รู้สึกถึงความนุ่มสบายฝ่าเท้าได้ทันที แต่หน้าผ้ารู้สึกค่อนข้างแข็ง บีบนิ้วก้อยเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะความหนาของหน้าผ้าก็เป็นได้ คาดว่าใส่นวดไปสักพักน่าจะเข้าที่ แต่ถ้าใครไม่ชอบเวลาซื้อก็ต้องเผื่อไซส์ขึ้นไปอีกสัก 0.5

เวลาใส่แล้วรู้สึกถึงความลาดเอียงของพื้นได้เลย ส้นยกขึ้นสูงพอสมควร ใส่ขับรถยากมากส่วนการยึดเกาะพื้นก็ทำได้ดี เวลาเดิน Air จะมีอาการยวบ ซึ่งเป็นปกติของรุ่นนี้ ภาพรวมแล้วดีมาก ไม่ผิดหวังกับความหนาของ Air และการปรับแรงดันอากาศสำหรับการเดินทำได้ดีมาก ส่วนการใส่วิ่ง ใส่วิ่งได้ แต่คิดว่าคงไม่เหมาะนำมาใส่วิ่งเท่าไรนัก เพราะรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ Lifestyle sneaker ไม่ได้เป็นรองเท้าสำหรับวิ่ง

Exit mobile version