แกะกล่อง พรีวิว รองเท้าวิ่ง New Balance FuelCell Rebel v2

ในปีที่แล้วหลายๆ คน น่าจะติดใจกับ FuelCell โฟมใหม่ของทาง นิว บาลานซ์ ไม่น้อยเลย และรองเท้าวิ่งสำหรับใส่ซ้อมทำความเร็วอย่าง Rebel ก็ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก ในบางช่วงก็ขาดตลาด จนในช่วงหลังก็เริ่มมีของเข้ามามากขึ้น และในปี 2021 นี้ ทาง นิว บาลานซ์ ก็ได้ปล่อย New Balance FuelCell Rebel v2 รุ่นต่อยอดออกมา ซึ่งรุ่นนี้มีดีไซน์ที่ดูแฟชั่นมากขึ้น และมีการปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพให้ดีขึ้นด้วย สำหรับรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร เรามาชมแกะกล่องและพรีวิวไปพร้อมๆ กันครับ

ถ้าไม่อยากอ่าน เชิญรับชมคลิปวิดีโอแกะกล่อง พรีวิว กันได้เลยครับ

ดีไซน์ของ Rebel v2 นี้ดูดีขึ้นมาก เปลี่ยนไปจากรุ่นที่แล้วอย่างสิ้นเชิง มีความเป็นแฟชั่นหน่อยๆ ผสมเข้ามา ส่วนตัวแล้วถูกใจดีไซน์เป็นอย่างมาก อัปเปอร์เป็นหน้าผ้าตาข่าย Engineered Mesh ที่มีความโปร่งมากๆ น่าจะระบายอากาศได้ดีไม่น้อยเลย ซึ่งผ้าตาข่ายนี้จะมาด้วยกันสองส่วน ส่วนที่เป็นสีตรงกลางจะเป็นผ้าตาข่ายที่มีการเย็บลายเส้นเล็กๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของหน้าหน้า และส่วนที่เป็นสีขาวด้านข้างนั้นจะมาพร้อมกับลวดลายโครงสร้างรูปคลื่นที่เป็นลายเส้น น่าสนใจว่าจะช่วยเพิ่มความกระชับเท้าได้หรือไม่ และโลโก้ N ขนาดใหญ่ก็มาในแบบลายเส้น และมีดีไซน์เพิ่มความซิ่งมาให้ด้วย

ลิ้นรองเท้ารุ่นนี้บางมาก มีรูระบายอากาศเต็มหลังเท้า พร้อมกับมีเขียนชื่อรุ่นไว้บนลิ้นรองเท้า ไม่มีฟองน้ำป้องกันการกดทับเวลามัดเชือกแน่นๆ น่าสนใจว่าเวลาใช้งานจริงจะรู้สึกอย่างไร ส่วนเชือกรองเท้าก็เป็นแบบแบนมีความนุ่มและยืดหยุ่น เท่าที่ได้ลองใช้งานมาหลายๆ รุ่น มัดทบเดียวก็เอาอยู่ และอีกจุดนึงที่น่าสนใจก็คือ ไม่มีรู Runner’s loop ไว้สำหรับช่วยล็อคส้นเท้าเพิ่มเติม เป็นอีกจุดนึงที่เราจะทดสอบมาให้ว่าการล็อคข้อเท้าจะทำได้ดีแค่ไหน

ตรงส้นมีแผ่น Heel Counter บางๆ อยู่ด้านใน ซึ่งอัปเปอร์ผ้าตาข่ายสุดโปร่งก็เผยให้เห็นแผ่นนี้ เราจะเห็นได้ว่าแผ่นนี้ก็มีการเจาะรูสำหรับการระบายอากาศไว้ด้วย และจะมีการปรับสูงขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ตเอ็นร้อยหวายมากขึ้น ด้านในก็มีการบุฟองน้ำไว้ไม่มากนัก แต่ก็มีความนุ่มพอสมควร

รูปทรงของ Rebel v2 จะค่อนข้างกระชับเข้ากับเท้า เพราะถูกออกแบบมาเป็นรองเท้าวิ่งสายทำความเร็ว อัปเปอร์จึงต้องมีความกระชับแนบชิดกับเท้าเพื่อทำความเร็วได้อย่างสะดวกคล่องแคล่ว ส่วนตัวเลือกใส่ไซส์เดิมที่เคยใส่ New Balance มา ก็ยังไม่เจอปัญหาอะไร แต่ปลายเท้ามีพื้นที่เหลือน้อยลงจากรุ่นอื่นๆ ส่วนหน้าเท้าก็ถือว่าค่อนข้างกว้าง ขนาดไม่ใช่รุ่น 2E ใส่แล้วก็ล้นออกด้านข้างเล็กน้อยเท่านั้น สามารถใส่ตรงไซส์ FuelCell TC, FuelCell RC Elite รวมถึง 1080v10, FuelCell 890 v8, FuelCell Prism ได้

ในส่วนของระบบก็ยังคงใช้โฟม FuelCell ที่มีความนุ่ม น้ำหนักเบาและแรงส่งคืนที่ดีแบบเต็มความยาวเท้าอยู่ แต่มีการปรับแต่งให้หนาขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว โดยเพิ่มความสูงของพื้นรองเท้าขึ้น 2 มม. เพิ่มแรงส่งคืนมากกว่าเดิม มาในพื้นทรงโค้งนิดๆ จะช่วยในเรื่องของความสมูทลื่นไหลในเวลาวิ่ง ด้านนอกตัวโฟมมีการปรับสูงขึ้นมากั้นเท้าไว้เล็กน้อย และยังมีใส่ลูกเล่นเล็กๆ ตรงพื้นชั้นกลาง โดยมีแผ่นป้าย New Balance ที่เวลาเราพลิกมุมมองก็จะเปลี่ยนเป็นคำว่า FuelCell

และด้านในมีการเสริมตรงอุ้งเท้าแบบเต็มๆ และพื้นตรงอุ้งเท้ายังมีความเรียบอีกทั้งมีการใส่ยางพื้นชั้นนอกบริเวณใต้อุ้งเท้ามาให้ด้วย ซึ่งคนที่มีอาการเท้าแบนเล็กน้อยน่าจะใส่ได้ไม่มีปัญหา

สำหรับรุ่นนี้จะมีน้ำหนักที่ 219 กรัม ในไซส์ 10us ผู้ชาย มีดรอป 6 มม. (26 mm heel, 20 mm forefoot) เป็นความหนาที่กำลังพอดี มีซัพพอร์ตรองรับแรงกระแทกพอควร และมีน้ำหนักที่เบาไว้ใส่เร่งความเร็วได้

พื้นยางชั้นนอก NDURANCE ติดมาให้ในบางส่วน จะเน้นหน้าเท้าเป็นหลัก ซึ่งตรงหน้าเท้าก็แยกชิ้นส่วนกัน เพื่อความยืดหยุ่นในเวลาลงเท้า และติดไว้ใต้บริเวณอุ้งเท้า และส้นเท้า ชิ้นส่วนสีดำตรงหน้าเท้าและสีแดงตรงส้นเท้าจะมีความแข็งแรงมากกว่าชิ้นส่วนสีส้ม ซึ่งจะเป็นบริเวณที่สัมผัสกับพื้นมากที่สุด จะช่วยยืดอายุการใช้งานรองเท้าวิ่งอีกด้วย

วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ผ่านช่องทางออนไลน์ทางเว็บไซต์ supersports.co.th ราคา 4,490 บาท และจะวางจำหน่ายที่หน้าร้าน New Balance Shop และ Supersports Stores ได้ในวันที่ 3 เมษายน 2564 เป็นต้นไป

ข้อมูลรองเท้า

Exit mobile version