Jordan Brand เผยคอลเลคชัน Air Jordan Retro สำหรับซีซัน Fall 2023 ช่วงปลายปีนี้

ปี 2023 ก็เดินทางมาถึงครึ่งปีหลังแล้ว และตอนนี้ Jordan Brand ก็ได้ทำการเปิดเผยคอลเลคชันรองเท้ารุ่น Retro สำหรับซีซัน Fall 2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้ และแน่นอนว่าปีนี้ก็ยังคงไฮไลท์มาที่การครบรอบ 35 ปีของรองเท้า Air Jordan 3 อยู่ และนอกจากจะเป็นการนำคู่สีเก่าๆ กลับมาแล้ว ก็ยังมีการใช้วัสดุลูกเล่นใหม่ๆ, การวางสีแบบคัลเลอร์บล็อค และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะมีรุ่นอะไร คู่สีอะไรบ้างนั้น มาติดตามกัน

Air Jordan 1 High OG “University Blue”

มีการหยิบคู่สียอดนิยมอย่าง UNC เข้ามาใช้งาน โดยมีการเติม University Blue ที่ปลายเท้าเข้ามาเป็นครั้งแรก จนทำให้เรียกกันว่า “UNC Toe” และมาในไซซ์แบบครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 นี้ ที่ NIke SNKRS ราคา 6,600 บาท สำหรับผู้ใหญ่, ราคา 4,700 บาท สำหรับเด็กโต, ราคา 2,900 บาท สำหรับเด็กเล็ก, ราคา 2,400 บาท สำหรับเด็กวัยหัดเดิน และราคา 1,700 บาท สำหรับเด็กทารก

Air Jordan 1 High OG “Palomino”

ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการจัดวางคู่สีดำและแดงแบบคัลเลอร์บล็อค แต่ในคู่สีนี้ได้ใช้หนังนูบัคพรีเมียมสีน้ำตาล Palomino brown วางเป็นเลเยอร์คู่กับหนังสีดำ และมาในไซซ์แบบครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

Air Jordan 1 High OG “Praline”

สำหรับ Air Jordan 1 High OG “Praline” คู่นี้ มาพร้อมกับหนัง tumbled leather สุดนุ่ม มาในสี Praline และพิเศษก็คือเชือกผ้าซาตินที่เสริมลุคความเป็นผู้หญิงมากขึ้น แน่นอนว่ารุ่นนี้มาในไซซ์สำหรับสาวๆ นอกจากนี้ยังมาในไซซ์เด็กโตและเด็กเล็ก

Air Jordan 1 Low OG “Black Toe”

Air Jordan 1 Low OG คู่นี้มาในสีคลาสสิกอย่าง “Black Toe” มาในไซซ์แบบครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก วางจำหน่ายไปในวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา

Air Jordan 1 Low OG “UNC to Chicago”

Air Jordan 1 Low OG คู่นี้ได้มีการนำสียอดฮิตระหว่าง UNC และ Chicago มาใช้งาน โดยเป็นการเล่าเรื่องราวของ Michael Jordan ที่จบจากมหาวิทยาลัย นอร์ทแคโรไลนา ผ่านการดราฟท์ตัวเข้าสู่ทีม Chicago Bulls ใน NBA ซึ่งจะมาในไซซ์ผู้หญิง วางจำหน่ายแล้วใน Nike SNKRS https://invol.co/cljepel

Air Jordan 1 Low OG “Atmosphere Grey”

Air Jordan 1 Low OG คู่นี้มาพร้อมกับหนังและหนังกลับระดับพรีเมียม พื้นชั้นกลางมาในสี Off-White ให้ลุควินเทจสไตล์ จะวางจำหน่ายโดยเฉพาะไซซ์ผู้ชาย

Air Jordan 2 “Black Cement”

มาในสเปก OG แบบเดียวกันกับปี ’87 และได้รับแรงบันดาลใจสีจาก Air Jordan 3 “Black Cement” โดยจะเป็นการฉลองครบรอบ 35 ปีของ Air Jordan 3 และมาในไซซ์แบบครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

Air Jordan 2 “Soft Pink”

Air Jordan 2 High คู่นี้ มาพร้อมกับผ้าใบสีขาวที่ส่วนบุนวมข้อเท้าและลิ้นรองเท้า ส่วนหลังเท้ามีการซ้อนทับด้วยเลยเยอร์สีชมพูและด้านบนสุดเป็นหนังกลับสีเทา ส่วนพื้นชั้นกลางสไตล์วินเทจมาในสีครีม Off-White จะมาในไซซ์ผู้หญิง

Air Jordan 2 Low “University Blue”

Air Jordan 2 Low มาในสเปกแบบ OG ของปี ’87 พร้อมกับสี University Blue ตามเส้นขอบต่างๆ และส้นเท้า รวมไปถึงพื้นชั้นนอกที่บริเวฯส้นเท้า ให้ลุคสีแบบ UNC สำหรับรุ่นนี้จะมาในไซซ์ผู้ชายและเด็กโต

Air Jordan 2 Low “Sky J Orange”

Air Jordan 2 Low คู่นี้ เติมความพรีเมียมและสไตล์แฟชันด้วยหนังนูบัค และใช้สีม่วงเข้มที่ได้แรงบันดาลใจจากท้องฟาในเมืองชิคาโกจากรูปภาพ Jumpman สำหรับสีสวยๆ แบบนี้จะมาในไซซ์ผู้หญิงเท่านั้น

Air Jordan 2 Low “Varsity Royal”

มาในสเปกดั้งเดิมของปี ’87 โดยมีโทนสีขาว, น้ำเงิน และดำ พื้นชั้นนอกสไตล์วินเทจ ให้อารมณ์ Air Jordan 1 Travis Scott x Fragment เลยทีเดียว และจะมาในไซซ์สำหรับผู้หญิง

Air Jordan 3 “Orewood Brown”

ฉลองครบรอบ 35 ปีของ Air Jordan 3 ด้วยการใช้โทนสีของ Palomino มาในหนังกลับสีน้ำตาลอ่อน เสริมด้วยหนังนูบัคที่รอบข้อเท้า, ลิ้นรองเท้า และมาพร้อมกับลาย Elephant print อันเป็นเอกลักษณ์ของ Air Jordan 3 ที่มาในโทนสีน้ำตาลด้วยเช่นกัน สำหรับรุ่นนี้ วางจำหน่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา

Air Jordan 4 “Red Cement”

Air Jordan 4 “Red Cement” ได้รับแรงบันดาลใจจาก Air Jordan 3 “Fire Red” ที่มาพร้อมสีแดงลายจุดเล็กๆ สีดำด้วยกรอบวิงแท็บ, sidewall ด้านข้างพื้นชั้นกลาง และส้นเท้า ทั้งหมดนี้จะอยู่บนอัปเปอร์หนังสีขาว มาในไซซ์แบบครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

Air Jordan 4 “Frozen Moments”

เพื่อเฉลิมฉลองให้กับรูปปั้นผู้หญิง Air Jordan 4 คู่นี้จึงมาในหนังกลับสีเทาแบบเดียวกับรูปปั้น และผสมผสานหนังแก้วรอบปลายเท้าจึงทำให้ดูสวยงาม โดยรุ่นนี้จะมาในไซซ์ผู้หญิง

Air Jordan 5 “Burgundy”

Air Jordan 5 “Burgundy” เลือกสีที่ได้รับความนิยมในปี 2006 โดยจะมาในสเปกดั้งเดิมปี ’90 อัปเปอร์หนังนูบัคสุดพรีเมียมสีเบอร์กันดี วางจำหน่ายไซซ์แบบครอบครัว ผู้ใหญ่,เด็กโตและเด็กเล็ก

Air Jordan 7 “Chambray”

คู่สีจากปี 2006 กลับมาอีกครั้งกับ Air Jordan 6 ในสเปกดั้งเดิมของปี ’92 อัปเปอร์หนังนูบัคสีดำ ตกแต่งด้วยสีฟ้าสว่างในช่วงหน้าเท้าและส้นเท้า มาในไซซ์ของผู้ชาย

Air Jordan 8 “Playoffs”

ฉลองครบรอบ 30 ปีของรองเท้า Air Jordan 30 ในปี 2023 ด้วยการนำรองเท้าในปี ’93 กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยออกมาอีกครั้งในปี 2013 โดยเป็นคู่สีที่ Michael Jordan ใส่ในรอบ Playoffs ด้วยอัปเปอร์หนังนูบัคสีดำ ตกแต่งด้วยสีแดงและน้ำเงิน มาพร้อมสายคาดหลังเท้าอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ จะวางจำหน่ายในไซซ์แบบครอบครัว ผู้ใหญ่,เด็กโตและเด็กเล็ก

Air Jordan 12 “Brilliant Orange”

เฉลิมฉลองการเติบโตของ WNBA ด้วยการมาของ Air Jordan 12 ที่ใช้หนังฟูลเกรนสีส้มที่เป็นสีของ WNBA ในส่วนของมัดการ์ดตัดกับสีดำบนอัปเปอร์ที่เหลือ โดยจะมาในไซซ์ของผู้หญิงและวางจำหน่ายที่อเมริกาเหนือเท่านั้น

Air Jordan 12 “Field Purple”

Air Jordan 12 คู่นี้ ใช้สีม่วง Field Purple ที่มัดการ์ดรอบปลายเท้ากับอัปเปอร์หนังสีดำและตกแต่งด้วยช่องร้อยเชือกสีทอง จะวางจำหน่ายในไซซ์แบบครอบครัว ผู้ใหญ่,เด็กโตและเด็กเล็ก

Air Jordan 13 “Wolf Grey”

เฉลิทฉลองการครบรอบ 25 ปีของ Air Jordan 13 มาในคู่สีที่พลิกจากคู่สี Neutral Gray ในปี 2005 โดยเปลี่ยนจากสีฟ้า University Blue เป็นสีแดง True Red ที่พื้นชั้นนอก ส่วนอัปเปอร์ยังคงใช้วัสดุหนังที่ผสมผสาน จะวางจำหน่ายในไซซ์แบบครอบครัว ผู้ใหญ่,เด็กโตและเด็กเล็ก

ที่มา Nike

Exit mobile version