HOKA Cielo X1 เป็นรองเท้าวิ่งซูเปอร์ชูส์รุ่นใหม่ที่ถูกวางให้มาเหนือ HOKA Rocket X 2 โดยในรุ่นนี้ได้มีการใช้ชื่อในตระกูล Cielo ที่เป็นรองเท้าวิ่งสายทำความเร็วอยู่แล้ว มาเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับวันแข่งขันและมีการใช้เทคโนโลยีของทางแบรนด์เข้ามาใช้งานในรุ่นนี้ ซึ่งเราได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงในบทความ แกะกล่อง พาชม Cielo X1 รองเท้าวิ่งระดับท็อปรุ่นใหม่ของโฮก้าในปี 2024 ไปแล้ว และในบทความนี้เราก็จะมาพูดถึงความรู้สึกและประสิทธิภาพในการสวมใส่กัน
ถ้าไม่อยากอ่าน เชิญรับชมคลิปวิดีโอรีวิวกันได้เลย
ข้อมูลรองเท้า
- อัปเปอร์ผ้าถัก Engineered knit
- พื้นชั้นกลาง PEBA และแผ่นคาร์บอน winged carbon fiber plate
- พื้นชั้นนอกยาง
- ดรอป 7 มม.
- พื้นสูง 39 มม./ 32 มม.
- น้ำหนัก 272 กรัมในไซซ์ 10.5US
- ราคา 9,990 บาท
อัปเปอร์ผ้าถัก Engineer knit กระชับ แข็งแรง
สำหรับ Cielo X1 ทางโฮก้าได้นำผ้าถัก Engineered knit มาใช้งาน มีแนวเส้นโครงสร้างถักทอขึ้นมาจากแผ่นผ้าตาข่ายบางๆ อยู่ ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นไม่มาก แต่ก็คงตัว ล็อคกระชับเท้าได้ดี และยังมีความแข็งแรงที่สามารถดึงพื้นชั้นกลางขึ้นมาในขณะวิ่งจนรู้สึกว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ส่วนการระบายอากาศต้องบอกว่าทำได้ดี ไม่ร้อน ไม่อับ แต่ก็ไม่ได้รับลมชัดเจนแบบรุ่นอื่นๆ ที่มีหน้าผ้าเป็นลักษณะรูระบายอากาศ ส่วนลิ้นรองเท้าที่เป็นแบบยืดหยุ่นก็มอบความกระชับคล้ายถุงเท้าที่หลังเท้า และส้นเท้าก็ถือว่าล็อคส้นได้ดี ไม่หลวมหลุด
เชือกแบบริบบิ้น ต้องมัดให้แน่น ถึงจะหลุดยาก
อีกสิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนรู้สึกแปลกใจก็คือเชือกแบบริบบิ้น โดยทางโฮก้าได้พัฒนาเชือกแบบนี้มาหลายเวอร์ชันมาก จนสุดท้ายแล้วก็ออกมาในรูปแบบและวัสดุแบบนี้ ซึ่งทางโฮก้าเคลมว่าจะเป็นเชือกที่น้ำหนักเบาและหลุดยาก จากการที่ทดลองใช้งานครั้งแรก รู้สึกว่าหลุดง่าย จนรู้สึกคาใจว่าถ้าเราดึงเชือกให้แน่นตอนผูกโบว์ครั้งสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ปรากฏว่าไม่หลุดเลย แต่ถ้าใครที่ไม่อยากกังวลก็มัดสองทบตั้งแต่แรกได้เลยเหมือนกัน หลุดยากมาก รวมถึงรูร้อยเชือกที่ครั้งนี้ไม่มี runner’s loop มาให้ แต่ด้วยการที่เป็นรูร้อยเชือกแบบสองแถวที่ล็อคเชือกได้ดีมากๆ ไม่มีการคลายตัวระหว่างการวิ่ง และรูสุดท้ายก็ค่อนไปทางข้อเท้า จึงทำให้เวลามัดเชือกก็คล้ายๆ กับการร้อยรู runner’s loop แล้ว
พื้นชั้นกลางดีไซน์แบบใหม่ นุ่ม เด้ง และลื่นไหลมาก
ในด้านประสิทธิภาพหลักๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นกับระบบของพื้นชั้นกลาง โดยรุ่นนี้มีการออกแบบมาแตกต่างจากรองเท้าวิ่งโฮก้าเดิมๆ ไปเลย อย่าง Carbon X ก็จะเป็นพื้นทรงโค้ง มีการวางแผ่นคาร์บอนที่ใกล้พื้น เพื่อให้มีความสมูทและใช้หลัก Gemetry กลิ้งเท้าไปแบบโรลลิ่ง ส่วน Rocket X ก็จะลดความโค้งลด เพื่อให้เร่งความเร็วได้ดีขึ้น แต่สำหรับ Cielo X1 นี้ ได้มาในรูปแบบ early-stage MetaRocker แต่ก็มีที่มีความโค้งชัดเจนตั้งแต่ส้นเท้าจนไปถึงปลายเท้า ซึ่งเราจะมองเห็นความโค้งจากด้านในเท้าได้ชัดเจนกว่า เพราะด้านข้างเท้าด้านนอกนั้นถูกเฉือนเนื้อโฟมออกไปเพื่อลดน้ำหนักตัวรองเท้าลง รวมถึงลงความหนาแน่นช่วยให้รู้สึกเวลาลงเท้าจะนุ่มนวล
ในการสวมใส่วิ่งจะรู้สึกได้เลยว่าตรงช่วงกลางเท้าจะมีความหนามาก ในขณะวิ่งจะรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าจะทำให้ทรานซิชั่นในระหว่างการวิ่งดีมาก เพราะรูปทรงโค้งของรองเท้าวิ่งคู่นี้ผ่านการออกแบบมาเพื่อการวิ่งในละกษณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ลงส้นเท้า, กลางเท้า หรือปลายเท้าก็ยังสัมผัสความไหลของรูปทรงได้ชัดเจน เทคโนโลยี early-stage MetaRocker ที่ปกติปลายเท้าจะไม่โค้งมากเพื่อช่วยให้การวิ่งไม่เอนตัวไปข้างหน้ามากเกินไป แต่ในรุ่นนี้รู้สึกถึงความโค้งมากกว่ารองเท้าวิ่งทั่วไปของโฮก้า จึงทำให้แค่เอนตัวก็กลิ้งไหลไปข้างหน้าแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่าโค้งมากจนวิ่งหรือเดินยาก และด้วยโฟม PEBA ที่หนานุ่ม จึงมีการรองรับแรงกระแทกได้ดี พร้อมกับแผ่นคาร์บอนที่มีรูปทรงแบบ winged carbon fiber plate มีปีกยื่นออกมาช่วงหน้าเท้าและกลางเท้า ก็ทำให้รู็สึกว่าเวลากดลงไป จะมีความมั่นคงในระหว่างการวิ่งและช่วยเสริมได้แรงส่งคืนกลับมาได้ดี
ในเรื่องของความเร็ว Cielo X1 ยังถือว่าทำได้ดีมากๆ และเป็นรองเท้าวิ่งที่ช่วยประหยัดแรง เท่าที่ลองออกแรงชิลที่ปกติวิ่งที่เพซ 8.30 แต่ในรุ่นนี้ก็ทำให้เราวิ่งที่ความเร็วประมาณเพซ 7 โดยใช้แรงเท่าเดิม และเมื่อลองเพิ่มความเร็วก็กดติดได้ง่ายและยิ่งมีแรงส่งคืนในขณะวิ่งได้ดี และที่สำคัญคือ Cadence หรือรอบขานิ่งมาก มีความสมูทลื่นไหลและมอบความเร็วได้อย่างคงที่ ส่วนตัวเรามองว่าเหมาะสำหรับวิ่งแข่งขันมาราธอนเป็นอย่างมาก ที่ต้องอาศัยการประหยัดพลังงาน ความเร็วคงที่ เพื่อให้วิ่งจนจบ
พื้นชั้นนอกยางเต็มๆ ยึดเกาะดี ทนทาน
พื้นชั้นนอกในรุ่นนี้ก็มาในรูปแบบพื้นยางที่หนา และมีการวางแบบเต็มๆ โดยจะเว้นช่วงแค่ตามพื้นชั้นกลางที่ถูกเจาะออกไปเท่านั้น ในด้านการยึดเกาะทำมาได้ดีมาก ส่วนความหนาก็มาในเรื่องของอายุการใช้งาน ซึ่งความทนทานก็ถือว่าทนทานพอสมควรเลยนะ
น้ำหนัก 272 กรัม ในไซซ์ 10.5US เป็นภาระมากน้อยแค่ไหน?
ในส่วนของน้ำหนัก 272 กรัม ไซซ์ 10.5US ที่หลายๆ คนอาจจะได้ยินแล้วตกใจ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบมาในรองเท้าวิ่งคู่นี้ ด้วยแรงส่งคืนที่ดีเอามากๆ ทำให้เวลาวิ่งไม่รู้สึกถ่วงเท้าเลย วิ่งสนุกเอามากๆ และอย่างที่กล่าวไปด้านบนว่าอัปเปอร์ก็มีความแข็งแรงจึงทำให้รองเท้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
การเลือกไซซ์ HOKA Cielo X1
การเลือกไซซ์สำหรับ Cielo X1 นั้น สามารถใส่ตรงไซซ์กับรองเท้าวิ่งโฮก้าทั่วไปได้เลย หรือสามารถเลือกตรงไซซ์กับ Rocket X 2 ได้ แต่ถ้าใครที่ขยับ 0.5 ใน Rocket X 2 ไป ก็สามารถเลือก -0.5 ใน Cielo X1 ได้ แต่สำหรับเราพอลองสวม 10US ที่เราใส่ทั่วไปแล้ว รู้สึกว่าตรงปลายนิ้วก้อยยังชนนิดหน่อย พอเพิ่มเป็น 10.5US แล้วรู้สึกสบายกว่า และส้นก็ไม่หลุด จึงเลือกไซซ์นี้มา เพราะตั้งใจจะใช้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้วิ่งในระยะยาว ก็มีการเว้นพื้นที่ไว้สำหรับเผื่อเท้าขยายด้วย
สรุป HOKA Cielo X1 ดีไหม? เหมาะกับใคร?
เป็นรองเท้าวิ่งที่ออกแบบมาสำหรับวันแข่งขันได้ดี พื้นชั้นกลางที่มาในรูปแบบใหม่ช่วยให้ประหยัดแรง และมอบความเร็วได้อย่างคงที่ ซึ่งในขณะวิ่งก็มีทรานซิชั่นที่ดีและรอบขาที่นิ่งมาก มีความมั่นคงในระดับที่ดีเลย แต่ไม่เหมาะสำหรับการเดินสักเท่าไรนัก เพราะตัวโฟมนุ่มเด้งชัดเจนทำให้วิ่งช้าหรือเดินควบคุมค่อนข้างยาก นอกจากนี้การรองรับแรงกระแทกก็ทำได้ดี วิ่งจบไม่มีสะท้านเลย ถือว่า Cielo X1 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรองเท้าวิ่งมาราธอน ไม่เน้นพุ่งในระยะสั้น แต่จะเป็นการวิ่งไปด้วยความเร็วอย่างคงที่ ใครที่กำลังหารองเท้าสำหรับวิ่งแนวนี้ บอกเลยว่ารองเท้าวิ่งซูเปอร์ชูส์รุ่นใหม่จากโฮก้ารุ่นนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นอน
HOKA Cielo X 1 ราคา 9,990 บาท จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ที่ร้าน HOKA Experience Store สาขา Centralworld, Megabangna, Emporium, ออนไลน์ สโตร์ https://hoka.rev.co.th/ และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
