รีวิว Adidas Pureboost Go รองเท้าวิ่งใส่สบาย ดีไซน์สวย

Adidas Pureboost Go รองเท้าวิ่งตระกูล Pureboost ถูกคิดค้นขึ้นมาภายใต้คอนเซ็ปต์การวิ่งที่เป็นอิสระ ปรับเปลี่ยนทิศทางได้รวดเร็ว ได้เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2018 ที่ผ่านมา แล้วก็มีการออกสีใหม่ออกมาเรื่อยๆ จนมาถึง 2 สีใหม่ ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อ 21 มีนาคมที่ผ่านมา และในสีใหม่นี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมเล็กน้อย เพื่อประสบการณ์การวิ่ง City Run ที่ดีขึ้น ซึ่งจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกัน

แวะดูวิดีโอกันก่อน แล้วค่อยอ่านบทความรีวิวด้านล่าง

เสริมเส้นใยช่วยระบายความชื้นและจุดสะท้อนแสง

อัปเปอร์ผ้าถักที่มีการเปลี่ยนมาใช้เส้นใยไคลมา (Clima Moisture Management Yarns) ที่มีคุณสมบัติช่วยระบายความชื้น (ปกติเราจะเห็นเส้นใยนี้บนเสื้อผ้าของอดิดาส Clima Cool)

และใส่วัสดุสะท้อนแสงบนตัวรองเท้าเข้ามาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการวิ่งตอนกลางคืน ตัวผ้าถักของ Pureboost Go นี้จะไม่กระชับเหมือนกับ Ultraboost 4.0 และ Ultraboost 19 และไม่มีเคจตรงกลางเท้า

หน้าเท้าช่วง Toe Box ค่อนข้างกว้าง แถวช่วงนิ้วโป้งด้านในเหมือนมีแผ่นเสริมขึ้นมาให้เป็นทรงและด้านนอกมีเส้นขีดประสานกัน เพิ่มความสวยงามให้กับตัวรองเท้า

ลิ้นรองเท้าจะถูกยึดติดไว้กับตัวรองเท้าเลย เชือกก็ร้อยตามขอบด้านข้างไว้ เวลาสวมใส่ก็จะต้องทำการยกลิ้นรองเท้าขึ้นมาก่อนทุกครั้ง และตรงส้นก็จะไม่ได้เป็นแนวโค้งเพื่อรองรับการสวมใส่ได้ง่ายแบบตระกูล Ultraboost

ตรงส้นเท้า มี Fitcounter แผ่นเสริมไว้ด้านใน และด้านในก็มีการบุฟองน้ำเสริมขึ้นมาเพื่อล็อคส้นเท้าให้กระชับ ด้านนอกก็ตกแต่งด้วยเส้นประสานกันสวยงามลงตัว

พื้นชั้นกลางเป็นโฟม BOOST เทคโนโลยีของทางอดิดาส ที่จะช่วยส่งแรงคืนกลับมาในขณะวิ่ง ดรอป 8 มิลลิเมตร โดยความสูงของพื้นรองเท้าในบริเวณส้นเท้าที่ 21 มิลลิเมตร และหน้าเท้า 13 มิลลิเมตร ความหนา ซึ่งตัวโฟมไม่ได้หนามาก ทำให้ได้รับฟีลลิ่งออนคอร์ทมากกว่าตัว Ultraboost พอสมควรเลย แต่ก็ยังคงความนุ่มสบายตามแบบฉบับของโฟม BOOST อยู่

พื้นชั้นนอกเป็นยาง EVA แบบโปร่งใส มีการไล่เฉดสีแบบใหม่ จากเดิมจะเป็นแบบทึบ และมีการตัดแบ่งสีตรงช่วงส้นเท้าเท่านั้น

ประสิทธิภาพ Adidas Pureboost Go

ความรู้สึกแรกที่ได้สวมใส่ออกวิ่งครั้งแรก คือ นุ่ม และ เด้ง ออกวิ่งด้วยความรู้สึกนุ่ม และมีความเด้งเล็กน้อยที่คอยส่งแรงกลับคืนมา แต่ตัวโฟมไม่แน่นเท่ากับ Ultraboost เลยมีความรู้สึกยวบๆ บ้าง ใส่วิ่งทำความเร็วได้ดีถึงแม้น้ำหนักจะไม่เบาเท่ากับพวกสายสปีดแต่ก็ถือว่าไม่หนักสำหรับ Pureboost Go รุ่นนี้

ส่วนหน้าผ้าจะไม่ชับกระชับแบบ Primeknit 360 ดังนั้นไซส์ที่ใส่ก็สามารถตรงไซส์ได้เลย และเชือกที่ให้มามีความยาวมากๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่พอมัด 2-3 ทบเลย แต่เชือกรุ่นนี้มัดทบเดียวก็เอาอยู่ ไม่หลุดง่าย การระบายความร้อนถือว่าเส้นใยไคลมาก็ช่วยได้ดีในระดับนึง เวลาวิ่งไม่รู้สึกร้อนเท้า

พื้นชั้นกลางจะกว้างกว่าตัวรองเท้าทั้งหมด ช่วยให้การวางเท้าเวลาเปลี่ยนทิศทางทำได้ดี และยังมีส่วนช่วยให้เวลาใส่แล้วดูขาเรียวขึ้นไปอีกนิดนึง เมื่อต้องมีการเปลี่ยนทิศทางกะทันหันพื้นยาง EVA ก็ยังคงทำหน้าที่ในการยึดเกาะได้ดีอยู่ และตัวโฟมไม่สูงทำให้ความรู้สึกถึงพื้นถนนได้มากกว่า Ultraboost 19

Adidas Pureboost Go ราคา 4,500 บาท เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรองเท้าที่มีน้ำหนักไม่มาก พื้นไม่หนา ใส่วิ่งสบายๆ อีกทั้งยังมีดีไซน์สวยงาม ใส่ไปเที่ยว ใส่ไปทำงาน เดินสบายๆ ได้เลย ส่วนใครที่ต้องการซัพพอร์ตมากหน่อย ก็มุ่งไปที่ Adias Ultraboost 19 ได้เลยครับ

รองเท้าจากอดิดาสไซส์จะใหญ่กว่าไนกี้เล็กน้อย แนะนำให้ลดลงมา 0.5 จากไนกี้ ส่วนใครที่ใส่อดิดาสอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกตรงไซส์ได้เลย คนหน้าเท้ากว้างยังคงใส่ได้เพราะหน้าผ้าเป็นผ้าถักนิ่ม ไม่แข็งบีบนิ้วก้อย แต่ถ้าหน้าเท้ากว้างมากๆ แนะนำให้ไปลองดูที่ shop ก่อน

รองเท้ารุ่นนี้ไม่เหมาะสำหรับคนเท้าแบน เท้าล้ม เพราะด้านในไม่มีตัวซัพพอร์ตตรงอุ้งเท้า

Exit mobile version