รีวิว adidas adizero Boston 10 รองเท้าวิ่งสำหรับวันฝึกซ้อม เฟิร์ม แน่น ตอบสนองได้ดี

หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องและพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับรองเท้าวิ่งสำหรับฝึกซ้อมรุ่นใหม่ adidas adizero Boston 10 กันไปก่อนหน้านี้ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องความรู้สึกในการใช้งานว่ารองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปติดตามรีวิวกันได้เลยครับ

ถ้าไม่อยากอ่าน เชิญรับชมคลิปวิดีโอรีวิว adizero Boston 10 ได้เลยครับ

ในปีนี้ ทางอาดิดาส ได้วางตำแน่งของ Boston 10 ไว้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับวันฝึกซ้อม พร้อมกับปรับโฉมรองเท้าวิ่งพื้นบางมาเป็นพื้นหนาแบบที่ไม่เคยหนาได้ขนาดนี้มาก่อนในตระกูล Boston โดยมีเทคโนโลยีต่างๆ ของ adidas adizero adios PRO 2 เข้ามาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Lightstrike PRO ที่วางเป็นพื้นชั้นกลางด้านบนที่จะมอบความนุ่มอยู่ใต้ฝ่าเท้า และใช้ Lightstrike ที่มีความเฟิร์มวางเป็นพื้นชั้นกลางด้านล่าง โดยมี EnergyRods วางใต้ฝ่าเท้า และมีแผ่นคาร์บอนวางใต้ส้นเท้า โดยทั้งหมดนี้จะมอบความเฟิร์ม มั่นคงในระหว่างวิ่งได้เป็นอย่างดี

ในการสวมใส่ครั้งแรก พื้น Lightstrike ให้ความรู้สึกแข็ง ต้องผ่านการนวดหรือนำมาสวมใส่ก่อนสักเล็กน้อย หลังจากนั้นจะพบว่ามีความนุ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวเคยใส่รองเท้าบาสเก็ตบอลที่มี Lightstrike หนาๆ มาก่อนหน้า พบว่าพอยิ่งหนาก็ยิ่งตอบสนองได้ดี มีความเฟิร์ม แต่ไม่สะท้านแบบใน adidas adizero RC 2 ที่มีพื้น Lightstrike ที่บางกว่า

การตอบสนองทำได้ดี ยิ่งลงเต็มเท้าจะรู้สึกได้ชัดว่ามีแรงส่งตรงส้นเท้าเด้งส่งขึ้นมาชัดเจนมาก เหมือนได้แผ่นคาร์บอนช่วยผลักยกเท้าให้ไปข้างแล้วไหลตามทรงของพื้นชั้นกลางไปพบเจอ EnergyRods ที่วางอยู่ตรงปลายเท้า ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยออกแรงส่งมาก เหมือนจะเป็นตัวช่วยให้พื้นคงรูปปล่อยให้เท้าเราไหลไปข้างหน้าได้อย่างไหลลื่นและไม่ต้องออกแรงมาก แต่ใน Bosotn 10 ปลายเท้าไม่ได้โค้งมาก แต่ก็พอปล่อยไปได้พอสมควร พอลองวิ่งเร็วขึ้น ก็พบว่า EnergyRods เองก็ช่วยเสริมแรงส่งตรงปล่อยเท้าอยู่เหมือนกัน และแผ่นคาร์บอนตรงส้นเท้าก็ช่วยรักษาความมั่นคงของข้อเท้าไว้อย่างดีอีกด้วย

และอีกสิ่งนึงที่ชื่นชอบก็คือ พื้นชั้นกลางที่มาแบบเต็มๆ ในบริเวณอุ้งเท้า ทำให้การลงเท้ามีความมั่นคงได้ดี ลงได้เต็มเท้า ไม่โคลงเคลง และพื้นชั้นนอกยาง Continental ที่มาในลวดลายใบมีดก็ทำหน้าที่ยึดเกาะพื้นได้ดี และยังทนทานต่อการใช้งานอีกด้วย

ในส่วนของอัปเปอร์ก็มีการใช้ผ้าตาข่าย Celermesh 2.0 ซึ่งตัวผ้าตาข่ายนี้มีความโปร่ง ระบายอากาศได้ดี แต่ด้านในของ Boston 10 มีผ้าอีกชั้นซ้อนด้านใน ก็ทำให้การระบายอากาศลดลงอีกนิดนึง แต่ก็ยังถือว่าดีอยู่นะ ไม่ได้อับชื้น และผ้าด้านในก็จะมอบความกระชับให้กับเท้าอีกด้วย หน้าเท้ากว้างสบาย แต่ช่วงกลางเท้ารู้สึกว่าค่อนข้างรัด แม้จะจะปลอดเชือกหลวมแล้วก็ตาม ส่วนส้นเท้าล็อคส้นเท้าได้ดี สวมใส่แล้วรู้สึกซัพพอร์ตได้ดี แต่ก็ไม่มีความสบายเท้าไรนัก ก็เข้าใจได้ เพราะเป็นรองเท้าออกแนวสำหรับทำความเร็ว ความกระชับต้องมาก่อนความสบาย

โดยรวมเป็นรองเท้าที่เราชื่นชอบอีกคู่ มีความเฟิร์ม มีความมั่นคง ช้าพอได้ เร็วก็ไหว ใส่ได้ค่อนข้างหลากหลาย เหมาะสำหรับใส่ในทุกๆ วันได้ดี และยังมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมกับมีเทคโนโลยีจากรุ่นท็อปอย่าง EnergyRods, แผ่นคาร์บอน มาให้ใช้งาน รวมถึงมีดีไซน์ที่สวยงาม

ส่วนเรื่องน้ำหนักที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ ด้วยน้ำหนัก 306 กรัมต่อข้างในไซส์ 9.5UK หรือ 10US นั้น ถือว่าเป็นน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะในสายสำหรับฝึกซ้อมทำความเร็ว แต่ด้วยระบบต่างๆ ทำให้ตอนวิ่งแทบจะไม่รู้สึกถึงน้ำหนักเลย อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เพราะถ้าวิ่งไปนานๆ ก็รู้ได้ถึงน้ำหนักของรองเท้าเช่นกัน ซึ่งถ้ามองเป็นข้อเสียก็มองได้ แต่อีกจุดนึงก็มองเป็นข้อดี คือ เราจะได้ฝึกกล้ามเนื้อให้เกิดความเคยชิน ใส่ซ้อมในทุกๆ วัน พอวันแข่งขันก็หยิบ adidas adizero adios PRO 2 หรือรองเท้าวิ่งสำหรับแข่งขันรุ่นอื่นๆ ที่มีน้ำหนักเบากว่า ไประเบิดความเร็วในวันแข่งขันแทน

adizero Boston 10 ราคา 4,800 บาท วางจำหน่ายที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์, อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์, อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ ร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ และ อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์

ข้อมูลรองเท้า

—————————–

อย่าลืมกดติดตาม กดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด Favorite ใส่รายการชื่นชอบไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟

ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday

อ่านข่าวในรูปแบบเว็บไซต์ได้ที่ https://snkrtoday.com

Exit mobile version