รีวิว รองเท้าวิ่ง adidas adizero adios PRO หนา นุ่ม เด้ง ไปแบบไหลๆ

รีวิว รองเท้าวิ่ง adidas adizero adios PRO หนา นุ่ม เด้ง ไปแบบไหลๆ

หลังจากที่เราได้ทำการแกะกล่องและพรีวิวไปก่อนหน้านี้ และได้นำมาสวมใส่วิ่งมาสักพักใหญ่ๆ ตอนนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับรีวิวรองเท้าวิ่ง adidas adizero adios PRO สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันเลย

ถ้าไม่อยากอ่าน เชิญรับชมวิดีโอรีวิวกันได้

มาเริ่มที่อัปเปอร์กันก่อน สำหรับรุ่นนี้ใช้ผ้าตาข่าย Celermesh ที่น้ำหนักเบาและความโปร่งเป็นพิเศษ ดังนั้นการระบายอากาศทำได้ดีมากๆ และในด้านความกระชับโครงสร้าง microFIT ที่เป็นเส้นตัดกันด้านในทั้งอัปเปอร์ก็ให้ความกระชับรอบๆ เท้าได้เป็นอย่างดี แต่ช่องว่างด้านในตรงบริเวณ Toe box จะมีพื้นที่เหลือเยอะ พอใส่แบบเพื่อไซส์มานิดนึงทำให้ดูไม่พอดีเท้าเท่าไร แต่ก็ไม่ได้ส่งผลแย่อะไร

จุดที่ชอบที่สุดก็คือ มีรูร้อยเชือกให้ปรับร้อยตามความถนัดและรูปเท้าได้ ส่วนตัวร้อยให้กว้างขึ้นเพื่อให้รู้สึกโอบตรงหลังเท้ามากขึ้น และลิ้นรองเท้าที่บางมีเย็บติดล็อคเข้ากับตัวรองเท้า เวลาสวมใส่จยากนิดนึง แต่มีข้อดีก็คือลิ้นรองเท้าจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ตรงส้นเท้าที่ยกสูงขึ้นมาซัพพอร์ตเอ็นร้อยหวาย ซึ่งก็ไม่ได้มาในรูปแบบที่หนามาก ทั้งหมดเพื่อให้ตังรองเท้ามีน้ำหนักที่เบา แต่ก็ยังให้ความล็อคกระชับส้นเท้าที่ดีอยู่

สำหรับพื้นชั้นกลาง Lightstrike PRO บอกได้เลยว่า “ทำมาดีมาก” มีความนุ่ม มีแรงส่งคืนที่ดี และยังมี EnergyRods แท่งคาร์บอนจำนวน 5 แท่ง วางตามแนวกระดูกเท้าตรงบริเวณใต้ฝ่าเท้า เสริมด้วยแผ่นไนลอนและแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ส้นเท้าเข้ามาเสริมในเรื่องของความเฟิร์ม ช่วยให้จังหวะที่ลงเท้าสู่พื้นมีความมั่นคงและยังคงรูปโฟมไว้ไม่ให้ยุบตัวมาก สามารถลงเท้าแล้วไปต่อได้ทันที ปลายเท้ามีความโค้งก็เข้ามาช่วยในเรื่องของความสมูทลื่นไหลในเวลาวิ่ง

พอได้สวมรองเท้าวิ่งคู่นี้ได้แล้วรู้สึกได้เลยว่าช่วยประหยัดแรงไปได้มากจริงๆ ออกแรงเท่าเดิม แต่เราไปได้เร็วขึ้น จังหวะที่ลงเต็มเท้ารู้สึกได้เลยว่านุ่มมากๆ และเด้งมากๆ ด้วยเช่นกัน พอปล่อยให้เท้าไหลตามความโค้งของพื้นรองเท้าก็ช่วยให้รอบขานิ่ง ไปได้เรื่อยๆ รวมถึงรองเท้าไม่ได้พยายามเร่งเรามากเกินไปอีกด้วย แต่ถ้าฝ่าเท้ายังไม่คุ้นชิน อาจจะมีอาการระบบจากการกระแทกของแท่งคาร์บอนก็เป็นได้

ด้วยพื้นที่ค่อนข้างหนา ทำให้เวลาเข้าโค้งหรือเลี้ยวหักศอกอาจจะรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงเท่าไรนัก แต่เรื่องการยึดเกาะ ยางพื้นชั้นนอกแบบบางก็ทำหน้าที่ได้ดี เท่าที่ได้ลองวิ่งในพื้นที่มีน้ำเล็กน้อย ก็ไม่มีอาการปัดแต่อย่างใด รวมถึงเวลาเดินในพื้นกระเบื้องก็ยังได้ยินเสียงหนึบหนับของพื้นยางชั้นนอกที่ยึดเกาะได้ดี

สำหรับรุ่นนี้เราได้ขยับไซส์ขึ้นมาอีก 0.5 จาก adios 5 เพราะได้ลองใส่ adizero PRO ในไซส์ 9UK แล้ว ค่อนข้างบีบเท้า รุ่นนี้ได้เลือกที่จะขยับขึ้นมา ทำให้ช่วงบริเวณนิ้วเหลือมีพื้นที่เหลือเยอะขึ้น แต่ด้านข้างค่อนข้างพอดีกับเท้าของเราที่มีรูปหน้าเท้ากว้าง แต่ก็สามารถปรับร้อยเชือกใหม่ก็ทำให้มีความกระชับเท้าที่ดีอยู่ และหน้าผ้าไม่กดนิ้วเท้าเหมือน adizero PRO อีกด้วย

น้ำหนักของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ อาจจะหนักกว่ารองเท้าวิ่งแข่งขันรุ่นอื่นๆ อยู่พอสมควร ซึ่งในไซส์ 9.5UK หรือ 10US นี้ ก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 245 กรัมต่อข้าง พอได้สวมใส่จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกหนักหรือถ่วงเท้าแต่อย่างใด น่าจะเป็นเพราะระบบต่างๆ ที่ใส่เข้ามาจนทำให้เวลาวิ่งไม่รู้สึกหนักเลย

สรุปความคิดเห็นหลังจากที่ได้ลองสวมใส่ adidas adizero adios PRO

โดยรวมเป็นรองเท้าวิ่งสำหรับวันแข่งขันที่ถูกใจเรามากอีกหนึ่งคู่ ด้วยความที่มีพื้นหนานุ่ม มีแรงส่งคืนที่ดีอีกทั้งยังวิ่งได้อย่างสมูทลื่นไหล ไปได้เรื่อยๆ ช่วยประหยัดแรงไปได้มาก สมกับที่ทางอาดิดาสเขาการันตีไว้ว่าจะช่วยประหยัดพลังงานและลดการสูญเสียพลังงาน และรองเท้าวิ่งคู่นี้ก็ไม่เร่งผู้สวมใส่จนเกินไป ทำให้คนที่ขาและร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงมากสามารถสวมใส่ได้ง่ายกว่ารองเท้าวิ่งที่มาพร้อมแผ่นคาร์บอนรุ่นอื่นๆ อัปเปอร์ก็มีความโปร่ง ระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วไม่อับชื้น และมีความกระชับ พร้อมให้ซิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่ลิ้นรองเท้าที่เย็บติดกับอัปเปอร์ทำให้สวมใส่ยาก ต้องมาคอยจัดลิ้นรองเท้าให้ดีก่อนทุกครั้ง ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และใครที่ลอง adizero PRO มาแล้ว รู้สึกไม่ใช่ adios PRO รุ่นนี้ก็น่าจะโดนใจไปเต็มๆ กับสายรองเท้าวิ่งหนานุ่มแบบนี้

ข้อมูลรองเท้า

ขอขอบคุณ adidas Thailand ที่ส่งรองเท้าวิ่งคู่นี้มาให้ได้สัมผัสกันด้วยนะครับ

—————————–

อย่าลืมกดติดตาม กดไลค์เพจ SNKR TODAY และกด Favorite ใส่รายการชื่นชอบไว้จะได้ไม่พลาดในการติดตามข่าวสารรองเท้ารุ่นใหม่ๆ 👟👟👟

ติดตามวิดีโอรีวิวรองเท้ารุ่นต่างๆ ได้ที่ https://www.youtube.com/snkrtoday

อ่านข่าวในรูปแบบเว็บไซต์ได้ที่ https://snkrtoday.com

Exit mobile version