แกะกล่อง พรีวิว รองเท้าวิ่ง adidas Adizero Adios 5

แกะกล่อง พรีวิว รองเท้าวิ่ง adidas Adizero Adios 5

วางจำหน่ายกันไปแล้วสำหรับ adidas Adizero Adios 5 รองเท้าวิ่งสายซิ่งแนว Racing Flat รุ่นใหม่ที่คราวนี้มีการปรับปรุงหลายอย่างและมาพร้อมโฟมใหม่ Lightstrike

วางจำหน่ายในประเทศไทยไปแล้วสำหรับ adidas Adizero Adios 5 รองเท้าวิ่งสายซิ่งรุ่นใหม่ โดยรุ่นนี้มีการนำโฟมใหม่อย่าง Lightstrike มาใช้งานในรองเท้าวิ่งเป็นรุ่นแรกอีกด้วย และยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่าง ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

ไม่อยากอ่าน ชมคลิปวิดีโอแกะกล่องกันเลย

อัปเปอร์เปลี่ยนมาใช้ Celermesh

จากเดิม Adizero Adios 4 นั้นได้ใช้หน้าผ้า Air mesh ซึ่งมีหลายเสียงบ่นเรื่องของการระบายอากาศที่ทำได้ไม่ดีนัก ในรุ่นนี้จึงเปลี่ยนมาใช้ Celermesh ผ้าตาข่ายชั้นเดียวที่ค่อนข้างโปร่งจนมองเห็นถึงด้านในของรองเท้า

โดย Celermesh นี้จะมีโครงสร้างตาข่ายที่เรียกว่า microFit โอบรอบเข้ากับสรีระของเท้าเพื่อความกระชับและความเป็นหนึ่งเดียวกับเท้าสำหรับการทำความเร็ว โดย microFit เป็นโครงสร้างที่พัฒนาโดยคุณลุง Toshiaki Omori นักออกแบบรองเท้าในตำนานของญี่ปุ่น และสำหรับ Celermesh นี้จะมีความแวววาวอยู่บนผ้าด้วย เมื่อพลิกรองเท้าดูเรื่อยๆ ก็จะเห็นตามแสงที่ตกกระทบ

ลิ้นรองเท้าเป็นผ้านุ่มบาง มีการเย็บติดกับตัวรองเท้า แต่ก็ยังขยับขยายตามรูปเท้าของผู้ใส่ได้ดี และในรุ่นนี้มีรูร้อยเชือกรองเท้าค่อนข้างถี่ ช่วยในเรื่องของการปรับกระชับหลังเท้าได้ดีขึ้น

Heel cup ตรงส้นเท้าค่อนข้างแข็งแรงและมีความบาง พร้อมเขียนชื่อรุ่น Adizero Adios 5 (ถ้าเป็นรุ่นในญี่ปุ่นจะชื่อว่า Adizero Japan 5)

สำหรับด้านดีไซน์ยังคงให้อยู่ในสไตล์ที่สวยงามและดูเร็ว จึงมีรูปทรงที่ค่อนข้างเรียว ตรงอุ้งเท้าถือว่าเรียวมาก เว้าเข้าไปด้านในอุ้งเท้าชัดเจน ส่วนข้างเท้าด้านนอก ลวดลาย 3 Stripes ก็ดูซิ่งไม่น้อยเลย

พื้นชั้นกลางแบบใหม่ Boost + Lightstrike

จากเดิม Adizero Adios 4 นั้นจะใช้พื้นชั้นกลาง Boost คู่กับโฟม EVA แต่ในรุ่นใหม่นี้จะมีการนำ Lightstrike โฟมชนิดใหม่จากอาดิดาสมาใช้งาน ซึ่งจะมีน้ำหนักเบากว่าโฟม EVA ทั่วไปถึง 40% แต่ยังคงนุ่มและเด้งแบบ Bounce (EVA) รองรับแรงกระแทกได้ดี แต่ก็จะไม่ได้เปลี่ยนทั้งหมด ยังใช้ร่วมกับ Boost อยู่ โดยเป็นการใช้ Lightstrike มาล้อมรอบ Boost แต่ตรงส้นจะใช้ Boost มากกว่า

นอกจากนี้ยังมีการปรับความสูงของพื้นให้บางลง ดรอปลดลง 0.5mm ด้วย โดยจะมีดรอป 9.5 mm (heel: 21.5 mm, forefoot: 12 mm) ในรุ่นที่แล้วมีดรอป 10 mm (heel: 27 mm / forefoot: 17 mm) พอพื้นบางลงจะทำให้การสัมผัสและความรู้สึกถึงพื้นนั้นมีมากขึ้น

พื้นชั้นนอกยาง Continental และ Adiwear

ยังคงใช้ยางคู่ใจ Continental อยู่ แต่จะใช้ตรงส่วนหน้าเท้าพร้อมกับปรับเปลี่ยนลายดอกยางใหม่ เป็นเส้นเฉียงแนวขวางดูจิกเกาะพื้นมากกว่าเดิม และตรงช่วงส้นเท้าจะใช้ Adiwear พื้นชั้นนอกที่มีความทนทานสูง

และตรงกลางเท้านั้นมี Torsion System ที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่เช่นเดียวกัน คราวนี้มาเป็นแผ่นเลย ไม่ใช่แกนพลาสติกแบบเดิมและมีความแข็งแรงมากๆ มี 2 แกนยื่นออกไปจนเกือบถึงปลายเท้า ซึ่งเจ้า Torsion System นี่จะเป็นเหมือนกระดูกสันหลังที่จะช่วยพยุงพื้นชั้นกลางไม่ให้บิดผิดรูปในขณะลงเท้า เป็นการเสริมความมั่นคงให้กับการวิ่งด้วย และยังช่วยเรื่องของแรงส่งคืนกลับมาเสริมกับ Boost และ Lightstrike อีกที

โดยรวมแล้ว adidas Adizero Adios 5 นั้นมีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิม 2 กรัม โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 224 กรัม ส่วน Adizero Adios 4 มีน้ำหนักอยู่ที่ 226 กรัม (size UK 8.5)

ทั้งนี้ฟีลลิ่งสำหรับการใส่ลองดีมาก หน้าผ้ากระชับเท้ามากๆ พื้นชั้นกลาง Lightstrike และ Boost ก็มอบฟีลลิ่งความนุ่มสบายเท้าได้ดี ด้านในเหมือนมีการออกแบบมาให้มีการเว้าเข้ารูปกับเท้าด้วย จากที่ลองเพิ่มอีกครึ่งไซส์แล้วรู้สึกว่าพื้นของรองเท้าไม่เข้ากับเท้าเลย อย่างไรก็ตามต้องขอไปลองใส่วิ่งสักพักก่อนนะ แล้วจะมารีวิวแบบเต็มๆ อีกครั้ง

Exit mobile version