adidas 4DFWD รองเท้าวิ่งพื้น 4D ที่ปรับมาให้เคลื่อนไหวไปข้างหน้าและเหมาะกับการวิ่งมากขึ้น

เราตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เข้าไปฟังข้อมูลรองเท้า adidas 4DFWD แบบเอ็กซ์คลูซีฟออนไลน์เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และหลังจากวันนั้นก็รู้สึกอึดอัดมากที่ยังไม่สามารถพูดอะไรมากไปกว่าคลิปวิดีโอที่อาดิดาสได้ปล่อยออกมา และในตอนนี้เราก็สามารถพูดได้แล้ว กับรองเท้าวิ่งที่มาพร้อมกับพื้นชั้นกลาง 4D แบบใหม่ ที่มีการปรับโครงสร้างมาเพื่อให้เหมาะสมกับการวิ่งมากขึ้น สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน

ถ้าไม่อยากอ่าน เชิญรับชมคลิปวิดีโอกันได้เลย

ย้อนกลับไปในปี 2016 ทาง อาดิดาส ได้เผยโฉมรองเท้าพื้นชั้นกลางที่มาจากเทคโนโลยี 3D Printed ขึ้นรูปโดยที่ไม่ต้องใช้แม่พิมพ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในช่วงนั้น และปีถัดมาก็ได้ร่วมกับบริษัท Carbon ในการพัฒนาและผลิตพื้นชั้นกลางด้วยเทคโนโลยี Digital Light Synthesis ยิงเลเซอร์ไปที่ของเหลวเพื่อขึ้นรูปพื้นชั้นกลางโดยไม่ต้องใช้แม่พิมพ์ ซึ่งการที่ไม่ใช้แม่พิมพ์นี้ก็ช่วยลดคาร์บอนฟุทพรินท์จากการผลิตรองเท้าได้ จนออกมาในรุ่น adidas 4D Futurecraft ที่เรียกเสียงฮือฮากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นอย่างมาก และในปี 2018 ก็ได้วางจำหน่าย adidas Alphaedge 4D ต่อยอดพื้นชั้นกลาง 4D โดยต้องการให้มาเป็นรองเท้า Performance แต่ด้วยน้ำหนักและประสิทธิภาพยังไม่ดีพอ จึงยังไม่เหมาะต่อการนำมาใส่วิ่งหรือใส่ออกกำลังกายสักเท่าไรนัก จนในปี 2020 ทางอาดิดาสก็ได้ปรับปรุงพื้นชั้นกลาง 4D ใหม่ จนออกมาเป็น adidas 4D Run 1.0 ที่เป็นการนำข้อมูลจากนักกีฬามาปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับการวิ่งที่มากขึ้น ซึ่งผลที่ได้ก็เหมาะกับการวิ่งที่มากขึ้นจริงๆ แต่ก็ยังประสบปัญหาเรื่องน้ำหนักและความนุ่มสบายของพื้นชั้นกลางอยู่

จนในปี 2021 นี้ ทางอาดิดาสได้พัฒนาโครงสร้างของ 4D ใหม่ ที่มาในรูปทรง bowtie-shaped (หูกระต่าย) โดยมีชื่อว่า FWD CELL สำหรับโครงสร้างนี้พอวางเรียกกันในลักษณะตาข่ายจะช่วยผลักให้ไปข้างหน้า (โครงสร้าง 4D เดิมและโฟมอื่นๆ จะมีแรงส่งคืนกลับมาด้านบน) และยังช่วยลด Peak braking force แรงเบรกตอนที่ลงเท้าในขณะวิ่งได้มากถึง 15% นอกจากนี้ทางอาดิดาสยังได้นำข้อมูลจากนักกีฬาที่เก็บรวบรวมไว้ 17 ปี มาพัฒนาและสร้างชุดพื้นชั้นกลางชุดนี้ เรียกได้ว่าทำให้ 4D พร้อมสำหรับการสวมใส่วิ่งจริงๆ แล้ว

และเท่าที่ได้ลองสวมใส่ออกวิ่งมา ก็พบว่าโครงสร้าง 4D FWD CELL แบบใหม่นี้ เมื่อวางเท้าลงสู่พื้น ตัวโครงสร้างจะทำการยุบตัวและมีการเคลื่อนที่ไปด้านหน้า เหมือนว่ามีแรงผลักให้เราไปข้างหน้าแบบอัตโนมัติ พอมาเข้ากับรอบขาในตอนวิ่งก็ทำให้เราไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น เป็นความรู้สึกในการวิ่งที่ค่อนข้างแปลกใหม่พอสมควร ใครที่ชอบวิ่งเรื่อยๆ ไปแบบชิลๆ รุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ไม่น้อย ทั้งนี้ด้วยดรอปที่ค่อนข้างสูง 11.3 มม. (ตรงส้นสูง 32.5 มม. หน้าเท้าสูง 21.2 มม.) ก็ช่วยให้เรามีความรู้สึกเอียงไปข้างหน้าอยู่ และไม่เพียงแค่สวมใส่วิ่งได้เท่านั้น ได้ลองวิ่งแบบจริงจังมากขึ้น วิ่งที่ประมาณเพซ 6 ก็รู้สึกได้ว่า เรายิ่งกดแรงมากเท่าไร แรงผลักไปข้างหน้าก็จะมีมากขึ้นตาม แต่เรื่องน้ำหนักที่ยังมีมากพอสมควร ก็ทำให้เป็นภาระขาอยู่ (น้ำหนัก 344 กรัม ไซส์ 9.5UK, 10US) แต่ก็เบากว่า adidas Ultraboost 21 ในไซส์เดียวกัน (364 กรัม) ส่วนตัวมองว่านำมาใส่วิ่งแบบ Daily trainer กำลังเหมาะ

และด้วยโครงสร้างใหม่นี้เองก็จะทำให้พื้นชั้นกลาง 4D มีความนุ่มมากขึ้น ไม่แข็งกระด้างแบบแต่ก่อน ใส่เดิน ใส่วิ่ง ได้ดีขึ้นมาก ตรงส้นจะมีการซัพพอร์ตที่ดีขึ้นมาก แต่ใส่เดินนานๆ จะรู้สึกว่าค่อนข้างยวบนิดนึง

อัปเปอร์เป็นผ้าถัก Primeknit+ ที่มาในรูปแบบ Sock-like สวมเข้าไปเหมือนถุงเท้า สำหรับอัปเปอร์นี้ ก็มีการนำข้อมูลต่างๆ มาปรับจูนเพื่อให้เข้ากับการทำงานของชุดพื้นชั้นกลาง 4D FWD CELL โดยจะมีรูปแบบการถักที่แตกต่างกันไปในแต่ละจุด ตัวผ้าถักมีความยืดหยุ่น โอบกระชับเข้ากับเท้าได้ดี ตรงส้นมีความแข็งแรง และยืดขึ้นไปสูงเพื่อซัพพอร์ตเอ็นร้อยหวาย และมีการเอียงหลบเพื่อไม่ให้เสียดสีอีกด้วย และเท่าที่ได้ใส่วิ่งมาก็ถือว่าทำมาได้ดีเลย ใส่สบาย กระชับ แต่ถ้าคนที่มีหน้าเท้ากว้างอาจจะล้นสักนิดนึง

พื้นชั้นนอกใช้เป็นยางที่มาพร้อมกับลวดลายพื้นสีเหลี่ยมที่ออกมาแบบมาสำหรับการใช้งานกับพื้นชั้นกลาง 4D FWD CELL ซึ่งให้การยึดเกาะที่ดี แต่ก็ไม่ได้รั้งเท้าในขณะที่พื้นชั้นกลางคอยผลักไปข้างหน้า และได้ลองวิ่งในพื้นเปียกก็ถือว่าผ่าน ไม่มีลื่นหรือไถลใดๆ

สรุปความคิดเห็น adidas 4DFWD

เป็นรองเท้าวิ่งพื้นชั้นกลาง 4D ที่เหมาะกับการวิ่งแบบมากๆ แล้ว หลังจากที่ผ่านมาทางอาดิดาสเองก็ได้พัฒนาออกมาให้ดีขึ้นและเหมาะกับการวิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงรุ่นนี้ที่กล้าพูดได้เต็มปากว่า สามารถสวมใส่วิ่งได้แล้วจริงๆ รวมถึงน้ำหนักยังเบากว่า 4D รุ่นก่อนๆ ไม่ใช่เพียงแค่โชว์นวัตกรรมเพียงอย่างเดียวแล้ว สำหรับ adidas 4DFWD ยังใช้งานเพอร์ฟอร์แมนซ์ได้แบบจริงจังอีกด้วย

ราคาและการวางจำหน่าย

จะวางจำหน่ายในจำนวนจำกัดตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ราคา 6,800 บาท ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และ อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ https://www.adidas.co.th ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2564 อาดิดาส จะวางจำหน่าย adidas 4DFWD Tokyo Collection และ adidas 4DFWD สีใหม่

ข้อมูลรองเท้า

Exit mobile version