adidas 4D เทคโนโลยีสุดล้ำจาก อาดิดาส

adidas 4D เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ ซึ่งพื้นชั้นกลางนี้จะขึ้นรูปโดยการใช้แสงและก๊าซออกซิเจนจากเทคโนโลยี Digital Light Synthesis ของ Carbon ด้วยการฉายแสงดิจิตอล ผสมผสานกับการไหลผ่านระหว่างของเหลวกับออกซิเจน จนได้ออกมาเป็นโพลีเมอร์โครงสร้างแบบโพรงตาข่ายที่มีทั้งความทนทานและมีประสิทธิภาพในการใช้งานในระดับสูง

เมื่อการสร้างและออกแบบพื้นชั้นกลางของรองเท้าแบบ Digital นั้น มีข้อดี คือ ไม่ต้องขึ้นรูปแม่พิมพ์แบบเดิมๆ ลดขั้นตอนการผลิต ลดต้นทุนและวัสดุในการผลิตลง เมื่อทุกอย่างลดลง ก็ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วย

และการออกแบบ 4D แนวนี้ ก็มีผลดีต่อผู้ใช้เช่นกัน สามารถสร้างรองเท้าให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ เช่น ใครที่ชอบลงน้ำหนักที่ส้นเยอะ ก็จะมีการออกแบบในส่วนส้นนั้นหนาหรือนุ่มกว่าส่วนอื่น เพื่อรองรับแรงกระแทกเฉพาะของแต่ละคนไป ไม่มีรองเท้าแบบเดิมๆ อีกแล้ว คำว่า One size fit all ก็คงจะหมดไป

แต่การผลิตแบบ 4D ณ ตอนนี้นั้น ยังมีข้อจำกัดอยู่ สามารถผลิตได้น้อยในแต่ละครั้งและยังมีราคาสูง ทำให้รองเท้า 4D ที่ออกมาวางจำหน่ายตอนนี้ยังไม่ใช่รองเท้าเฉพาะของแต่ละคน หากจะมองว่าเป็นรองเท้าคอนเซ็ปต์ของเทคโนโลยีนี้ที่ให้คนทั่วไปได้มาสัมผัสกันก็ได้ แต่เมื่อไรที่ทาง อาดิดาส สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ไปได้ และไปรวมกับ Futurecraft.Loop ได้ล่ะก็ จะทำให้รองเท้าแต่ละคู่นั้นเหมาะกับแต่ละคน และยังสามารถรีไซเคิลได้ใหม่อีก คนใส่แฮปปี้ สิ่งแวดล้อมก็แฮปปี้

adidas AlphaEdge 4D

วันนี้เราได้รับรองเท้าคู่นี้มาจากทาง อาดิดาส ประเทศไทย ขอบพระคุณมากๆ ที่ส่งรองเท้าคู่นี้มาให้ไปใช้งาน และทำให้เราได้สัมผัสเทคโนโลยี 4D ไปด้วย ซึ่งทางเราก็ชอบแนวคิดของทางอาดิดาสมากๆ และอยากเห็น Futurecraft.Loop ไวๆ ด้วยซ้ำ

สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวมาเมื่อปลายปี 2018 ปัจจุบันมี AlphaEdge 4D อีกลายไปแล้ว อัปเปอร์โดยหลักใช้ผ้าถัก Primeknit พร้อมกับเทคโนโลยี Forgefiber ที่มีการเย็บเฉพาะจุดเพื่อเพิ่มความทนทานในขณะเคลื่อนไหว พื้นชั้นกลางใช้เทคโนโลยี 4D และพื้นชั้นนอกใช้ยาง Continetal ลวดลายเป็นวงกลม สวยงามมากๆ

และจากที่ได้ลองสวมใส่พบว่าเป็นฟีลลิ่งที่แปลกใหม่ พื้นชั้นกลางไม่ได้นุ่ม แต่รู้สึกเฟิร์ม ใส่เดินทั้งวันได้แบบสบายๆ เพราะพื้นที่เฟิร์มไม่ยวบ ทำให้การเดินหรือยืนนานๆ ไม่เมื่อยขา แต่การนำไปใส่วิ่งอาจจะต้องคิดหนักสักนิด เพราะตัวรองเท้ามีน้ำหนักค่อนข้างเยอะเลย

ขอบคุณ อาดิดาส ประเทศไทย อีกครั้งครับ

Exit mobile version